posttoday

‘จุรินทร์’เข็นส่งออกปีหน้าโต 4% โกยรายได้เข้าประเทศ 9 ล้านลบ.

27 ธันวาคม 2564

ถกกรอ.พาณิชย์ ปักธงส่งออกปี’65 บวก 3 – 4 % พุ่งเป้า 4 กลุ่มสินค้าสร้างรายได้ ลุ้นศก.คู่ค้าฟื้นตัว หวังค่าเงินมีเสถียรภาพ 32-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 3/2564 ว่าคาดการณ์การส่งออกทั้งหมดในปี 2564 นั้น จะขยายตัวได้ 16% นำเงินเข้าประเทศได้ 8,585,600 ล้านบาท โดยสินค้าหมวดสำคัญๆ ที่ทำรายได้เข้าประเทศเป็นลำดับสูง ประกอบด้วย สินค้าการเกษตร สินค้าเกษตรอุตสาหกรรมและสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งตัวเลขจะเป็นไปตามนี้ทั้งหมดหรือไม่ก็ต้องรอตัวเลขจริงสำหรับเดือนธันวาคมอีกครั้ง

สำหรับการส่งออกในปีหน้า ได้คาดการณ์กันโดยหลายหน่วยงานทั้งหน่วยงานภาครัฐแล้วก็หน่วยงานภาคเอกชน แต่สำหรับในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ กำหนดไว้ว่าส่งออกปี 2565 จะขยายตัว 3 – 4 %  คิดเป็นมูลค่า 9 ล้านล้านบาทหรือ 280,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตัวเลขส่งออกในปี 2565 นั้นคาดว่าจะมากกว่าปี 2564 ประมาณ 4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการส่งออกในปีหน้า คือ 1. เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญย้อนหลังไป 5 ปี 2. อัตราแลกเปลี่ยน 3. ราคาน้ำมันดิบดูไบ 4. ราคาสินค้าเกษตร 5. ราคาวัตถุดิบโลก เฉลี่ย 6. สถานการณ์โควิด 7. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับด้านการขนส่งโลจิสติกส์ ซึ่งคาดว่าปี 2565 นั้น การผลิตตู้คอนเทนเนอร์ป้อนตลาดโลกจะเพิ่มขึ้น และช่วยให้การส่งออกคล่องตัวขึ้นและ 8. การประเมินโดยทูตพาณิชย์ของกระทรวงพาณิชย์ทั่วโลก

ทั้งนี้หมวดส่งออกที่สำคัญ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. สินค้าเกษตรและอาหาร  เช่น ข้าว ผลไม้ น้ำตาล อาหารเลี้ยงสัตว์ 2.สินค้าที่เกี่ยวข้องกับทำงานที่บ้าน (Work From Home) เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า 3. สินค้ากลุ่มเวชภัณฑ์ 4. วัตถุดิบที่ใช้เพื่อการผลิตสินค้า เช่น เหล็ก เม็ดพลาสติกเคมีภัณฑ์ ยางรถยนต์ที่จะนำไปใช้ในการผลิตรถยนต์

ส่วนบปัจจัยที่สนับสนุนการส่งออกในปีหน้าให้มีอัตราขยาย ได้แก่ 1. การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งมี OECD คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวบวก 4.5%  2. การนำเข้าของประเทศคู่ค้า ในปีหน้าคาดว่ายังขยายตัวดี ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น หรือสภาพยุโรป ซึ่งก็จะช่วยเสริมในการส่งออก นำเข้ามากโอกาสเราส่งออกไปก็จะมากขึ้นด้วย

3. ปัจจัยค่าเงินบาท ซึ่งคาดว่าปีหน้าก็ยังจะเอื้อต่อการส่งออก อยู่ที่ประมาณ 32 ถึง 33 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ  4. การผลิตตู้คอนเทนเนอร์ป้อนตลาดโลกที่มากขึ้น  5. การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล (e-Digital) จะช่วยเรื่องการส่งออกสินค้าด้าน IT ของไทย

6. แผนจัดการแก้ปัญหาโควิดที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในภาพรวมของโลก 7. ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) 15 ประเทศที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

ด้านการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนของไทย คาดว่าในปี 2564 นั้น จะขยายตัว 32% โดยสร้างรายได้จากการส่งออก ประมาณ 1 ล้านล้านบาท ขณะที่ปี 2565 ขยายตัว 5 - 7% หรือ 1.07-1.08 ล้านล้านบาท โดยมีมูลค่าการค้า ทั้งนำเข้าส่งออกทางชายแดนข้ามแดนประมาณ 1.78 – 1.82 ล้านล้านบาท