posttoday

วิสัยทัศน์'เกษมศานต์'บิ๊ก อสมท.ปรับธุรกิจชิงตลาดบนแพล็ตฟอร์ม OTT มูลค่าหมื่นล. ลุยธุรกิจใหม่ทีวีช้อปปิง

30 พฤศจิกายน 2564

อสมท. กางแผนงานปี65 เดินหน้าขยายธุรกิจเชิงรุก พร้อมต่อยอดคอนเทนต์บนแพล็ตฟอร์ม OTT ลงตลาดมูลค่ากว่า หมื่นล้านบาทคึกคักเดินหน้าต่อยอดธุรกิจใหม่ทีวีช้อปปิง หวังยกระดับสู่หุ้นยั่งยืนภายใน3ปี

นายเกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ อสมท ที่มีทิศทางที่ดีขึ้นและทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 อสมท ประกาศวิสัยทัศน์ “The Year of Trusted News & Smart Entertainment” ตอกย้ำความเป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง รวดเร็ว และตรวจสอบได้

โดย อสมท จะขยับไปสู่ Communication Solution Provider ผ่าน Content / Product & Service ที่มี Solution พร้อมตอบโจทย์ให้คำปรึกษากับลูกค้า โดยผนึกความร่วมมือกับ Strategic Partner เพื่อเติบโตไปด้วยกัน มีกลยุทธ์สำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจใหม่ในอนาคต คือ Reinforce – Refresh - Refine Reinforce เสริมจากสิ่งเดิมที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ด้วย Strategic Partner ยกระดับพันธมิตรทางธุรกิจ

ทั้งนี้ เพื่อร่วมสร้างเป้าหมายไปด้วยกัน เสริม Content ที่ Wise & Clean มุ่งนำเสนอเนื้อหาที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์กับสังคม ถูกต้องตรวจสอบได้ Refresh มุ่งสู่ The Trusted Platform และ Smart Entertainment และ Refine ต่อยอด Assets เดิมเพื่อสร้างรายได้ มีเป้าหมายก้าวเข้าไปสู่ “หุ้นยั่งยืน” ภายในปี 2568 ที่มีกำไรต่อเนื่อง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักสากล (ESG - Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล)) เพื่อสร้างโอกาสให้บริษัทเป็นที่สนใจจากผู้ลงทุนที่มีแนวคิดด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน

สำหรับผังรายการใหม่ ของช่อง 9 MCOT HD จะเริ่มในเดือนม.ค.ปี65 โดยตอกย้ำความเป็น Trusted Content สร้างความนิยมด้วยการพัฒนารายการข่าว , รายการบันเทิง และ Refreshing Brand ส่งรายการใหม่ลงเต็มผังในช่วง Prime – Time เพิ่มความนิยม และหวังให้ Content สามารถกลับมาอยู่ในใจผู้ชม ผู้ฟัง อีกครั้ง

พร้อมเสนอรายการข่าว 80 ชั่วโมง/สัปดาห์ เน้น Inform และ Verifyนำสาระที่มีประโยชน์อ้างอิงและเชื่อถือได้มานำเสนอ และยังยังเสริมด้วย Smart Entertainment ให้ความบันเทิงและสาระความรู้ไปพร้อมๆกันกับ Content ชั้นนำจากพันธมิตรบันเทิงอาทิ We TV, MONO ฯลฯ รวมถึงรายการใหม่ช่วง Prime – Time ได้แก่ รายการเปิดอกเคลียร์, รายการชูวิทย์สะกิดติ่ง โดยชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ และ รายการข่าวหุ้น ฯลฯ

สำหรับเป้าหมายในระยะยาวของ อสมท คือ การต่อยอด Content ที่มีอยู่ไปในช่องทาง Online และ Platform OTT จะเห็นได้ว่าตลาด OTT มีความคึกคักอย่างมาก เพราะผู้ผลิตContent รวมถึงสถานีโทรทัศน์หลายรายปรับกลยุทธ์มาให้ความสำคัญกับ Platform OTT มากยิ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในสถานการณ์ทีวีดิจิตอลอยู่ในช่วงขาลงจากพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 กระตุ้นให้ผู้ชมปรับตัวมาติดตาม Content บน Platform Online มากยิ่งขึ้น คาดการณ์ว่าตลาด Platform OTT ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา อสมท ส่งซีรีส์วาย Boy Love ซึ่งมีแนวโน้มได้รับความนิยมเป็นอย่างมากชิมลางลง OTT ทั้งในประเทศ อาทิ AISPLAY, WE TV ฯลฯ และต่างประเทศ อาทิ GagaOOLala , U-Next

รวมถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ Content ในตลาดต่างประเทศ เริ่มเจาะกลุ่มตลาดในภูมิภาคอาเซียน เพื่อนำไปออกอากาศผ่านเครือข่าย Free TV และ Platform OTT ปัจจุบันเริ่มมีรายได้จากการขยาย Content ไปใน Platform ดังกล่าว คาดว่าจะเป็นอีกช่องทางที่สร้างรายได้ในระยะยาวให้องค์กร

นายเกษมศานต์ กล่าวต่อไปว่าสำหรับธุรกิจวิทยุนั้น อสมท เตรียมความพร้อมในการร่วมประมูลคลื่นวิทยุ ตามที่สำนักงาน กสทช.ประกาศว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ในระหว่างนี้มุ่งสร้าง Community ผู้ฟังผ่าน New Platform Online: The Trusted มุ่งเน้น Content ที่ชัดเจน ตรงประเด็น มีสาระ ขยายรูปแบบการให้บริการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังการประมูลคลื่นวิทยุ คาดว่า ในปีหน้ารายได้จากธุรกิจวิทยุจะมีแนวโน้มดีขึ้น

ประกอบกับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทำให้เริ่มมีการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมจาก On ground ไปสู่ Online ทำให้สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบใหม่ๆได้หลากหลายและควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดี

ด้านธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล นั้น ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน กสทช. ให้ทดลอง ส่งสัญญาณออกอากาศฯ ภายใต้ชื่อ “ช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7” โดยออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของ อสมท แบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) จะเริ่มสะท้อนรายได้เข้ามาในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา

ปัจจุบัน อสมท มีผู้ใช้บริการโครงข่ายฯ จำนวน 4 ช่องรายการ ซึ่งเป็นช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลแบบความคมชัดสูง (High Definition) 2 ช่องรายการ ได้แก่ ไทยรัฐทีวี ช่องหมายเลข 32 และ MCOT HD ช่องหมายเลข 30 และ ช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลแบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) 2 ช่องรายการ คือ สถานีโทรทัศน์รัฐสภา ช่องหมายเลข 10 และ ช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7 มั่นใจว่าด้วยศักยภาพความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรของ อสมท จะพร้อมสนับสนุนการออกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"ธุรกิจนี้ ถือเป็นอีกธุรกิจสำคัญที่เป็นแหล่งรายได้ให้กับ อสมท เนื่องจากเป็นรายได้ที่ไม่ได้ แปรผันไปตามการบริโภคของประเทศเหมือนธุรกิจสื่อโทรทัศน์ และวิทยุ” โดยมีเป้าหมายในการ ขับเคลื่อน อสมท ให้เติบโตและก้าวสู่หุ้นยั่งยืน ภายในปี 2568” นายเกษมศานต์ กล่าว

ขณะเดียวกัน อสมท ยังเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ (New Business Model) ลงสนามในธุรกิจ TV Home Shopping ในชื่อ Shop Mania ด้วยการใช้ช่อง 9 MCOT HD เป็นช่องทางหลัก ในการจำหน่ายสินค้า เพราะเป็น Real – Time Platform โดยมีสินค้าหลัก คือ สินค้ากลุ่มสุขภาพ ความงาม และเครื่องใช้ในบ้าน และในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า รวมถึงเตรียมผลิตสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามภายใต้ Brand ของตัวเอง เพื่อจำหน่ายทาง Shop Mania และขยายช่องทางโปรโมตด้วยการผสานทุก Platform ของ อสมท เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ตลอดจนสร้างสรรค์ Content การนำเสนอขายสินค้าให้น่าสนใจยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว

สำหรับการต่อยอด Assets เช่น ทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน) ที่มีทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ย่านรัชดา – พระราม 9 , หนองแขม, บางไผ่ และในภูมิภาค จะดำเนินการด้วยความรอบคอบภายใต้กฎหมาย ข้อบังคับต่างๆ และคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับเป็นสำคัญ คาดว่าในไตรมาส 2 ปี 2565 จะเริ่มเห็นความชัดเจนของการพัฒนาที่ดินย่านรัชดา – พระราม 9 รวมถึงธุรกิจองค์ความรู้เพื่อสังคมที่สามารถต่อยอดจาก MCOT ACADEMY และชัวร์ก่อนแชร์ ฯลฯ คาดจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจใหม่ โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อน อสมท ให้เติบโตและก้าวสู่หุ้นยั่งยืน ภายในปี 2568