2บิ๊ก 'เทลเนอร์-ซีพี' เปิดวิสัยทัศน์ปฏิวัติอุตฯสื่อสารโทรคมนาคมสู่ฮับเทคโนโลยีภูมิภาค

หลังจากเครือซีพี-กลุ่มเทเลนอร์ ประกาศการพิจารณาสร้างความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน (Equal Partnership) โดยการสนับสนุนให้บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (TRUE) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) (DTAC) ตั้งเป้าปรับโครงสร้างธุรกิจสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี(Technology Company) ภายใต้ ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีฮับ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.

โดย 2ผู้บริหารกลุ่มเทเลนอร์ และ เครือซีพี ได้ร่วมเปิดวิสัยทัศน์ ในซูเปอร์ดีล ครั้งนี้

นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทเลนอร์ กล่าวว่า เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ ต่อการพลิกโฉมหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) และ คลาวด์ (Clloud) เพื่อผลักดันสร้างนวัตกรรมด้านดิจิทัลของประเทศไทย จากกาควบรวม2ธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งทางเทคโนโลยี และ โทรคมนาคม ด้วยรายได้รวมกว่า 217 พันล้านบาท มีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย 83 พันล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่กว่า 40%

สำหรับบริษัทใหม่ วางเป้าหมายเพื่อเร่งพัฒนา อนาคตดิจิทัลของประเทศไทย พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สร้างระบบนิเวศดิจิทัล เป็นพื้นที่ทำงานสำหรับมืออาชีพ ที่มีความสามารถและต้องการความท้าทาย พร้อมสนับสนุนวาระสร้างประเทศไทย 4.0 โดยจะประกาศความร่วมมือในไตรมาสแรก พร้อมลงนามข้อตกลงต่างๆในไตรมาสสอง คาดตลอดกระบวนการแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2565

"อุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากเทคโนโลยี เอไอ คลาวด์ และ คอมพิวเตอร์ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการออกแบบอนาคตให้เป็นรูปธรรม เห็นได้ชัดจาก อีคอมเมิร์ซ ดิจิทัล เปย์เมนต์ โซลูชัน ซึ่งการควบรวมครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์องค์กร อีโค พาร์ทเนอร ในการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีครั้งใหญ่ไปด้วยกัน" นายซิคเว่ กล่าว

ด้าน นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจระหว่างเครือซีพี และกลุ่มเทเลอนอร์ ในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือในการปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่ที่เตรียมเข้าสู่ยุค 5.0 ของประเทศและในระดับภูมิภาค ภายใต้กลยุทธ์ อีโค พาร์ทเนอร์ชิป เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในสนามการแข่งขันอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมมาถึงจุดที่ผู้ประกอบการธุรกิจ หรือ โอเปอเรเตอร์ไม่สามารเพิ่มมูลค่าในกิจการได้มากนัก ในปัจจุบัน

"ธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีบทบาทน้อยลง หรือเรียกว่าเป็น Dumb Pipe ท่อส่งอย่างเดียวที่ไม่ฉลาดมากนัก โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมโทรคมนาคม อย่าง บิ๊ก ดาตา ปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์ เทคโนโลยี สเปซ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่และเป็นจุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมจาก 4.0 ไปสู่ 5.0" นายศุภชัย กล่าว

โดยทั้งสองบริษัท เครือซีพี และ กลุ่มเทเลนอร์ ต้องการลดข้อจำกัด พร้อมเพิ่มมูลค่า เพื่อให้กิจการไปต่อได้พร้อมขับเคลื่อนผ่านเทคโนโลยี และคน ในยุคดิจิทัลพร้อมสร้างบทบาทใหม่ในระบบนิเวศ (eco system) ที่เกี่ยวข้องในด้านๆ ทั้ง นวัตกรรม เทคโนโลยี เอ็กเซลเลนซ์ เซ็นเตอร์ วิทยาศาสตร์ บุคคลากรเกี่ยวข้อง ฯลฯ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พร้อมขับเคลื่อนไทย เข้าสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างยั่งยืน

นายศุภชัย กล่าวว่า การควบรวมระหว่าง ทรู และ ดีแทค ในครั้งนี้ ยังเป็นการเพิ่มมูลค่า และการมีส่วนร่วมถึงสิ่งที่มองไปข้างหน้าด้วยพื้นฐานที่แข็งแรงมากขึ้น โดยจะมุ่งให้ความสำคัญในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ไอโอที (Iot) คลาวด์ (Cloud Computing) กิจการอวกาศ (Space) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อปัจจัยดังกล่าว ผ่านการลงทุน เวนเจอร์ แคปปิตอล เพื่อเข้าไปลงทุนใน เทคโนโลยี สตาร์ทอัพ ของไทย ให้ได้มีโอกาสเติบโตและเปลี่ยนผ่านประเทศไทย

โดยจะดำเนินการไปตามขั้นตอน เพื่อสร้างให้เป็นวาระระดับโลก ตั้งแต่การเข้าถึงข้อมูลแหล่งความรู้ต่างๆ ในด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่าน (Transformation) การเผยแพร่ประเด็นต่างๆ ทั้งในประเทศไปสู่ระดับโลก เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม จากการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา

"ทั้งหมดนี้ ถือเป็นวิสัยทัศน์ ได้วางไว้ร่วมกันด้วยเป้าหมายอันดับ1 ในการไปสู่ 'ฮับ' ระดับภูมิภาคในอนาคต" นายศุภชัย กล่าว