ROJNA จับมือ เฮิร์บ เทรเชอร์ ลุยธุรกิจกัญชงครบวงจร ลงทุนเฟสแรก 250 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2564 ได้มีพิธีลงนามร่วมทุน ระหว่างบริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) โดย นายชาย วินิชบุตร กรรมการบริหาร และนายคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ รองกรรมการผู้จัดการ และบริษัท เฮิร์บ เทรเชอร์ จำกัด โดยน.ส.รมย์ชลี จันทร์ประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และน.ส.อริสา จิตต์เสนา กรรมการ พร้อมด้วย นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ประธานคณะที่ปรึกษาการยาสูบแห่งประเทศไทย นายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ และคณะผู้บริหาร ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายคณวัฒน์ เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มองหาโอกาสใหม่ๆของธุรกิจในการสร้างความมั่นคงให้กับผู้ถือหุ้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการร่วมทุนกับบริษัท เฮิร์บ เทรเชอร์ จำกัด โดยเข้าถือหุ้นในสัดส่วน51% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว

ทั้งนี้มี 3 ปัจจัยหลักคือ 1.เฮิร์บ เทรเชอร์ เป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาติครบวงจร ทั้งการนำเข้าเมล็ดพันธ์ การปลูก และเป็นรายเดียวที่ได้ใบอนุญาตส่งออก 2.มีกลุ่มลูกค้าและผู้ซื้อผลิตภัณฑ์จากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฟสแรกบริษัทจะผลิตสารสกัด CBD 9 ตันต่อปี แล 3.ทั้งสอtงบริษัทมีการทำงานที่มีความสอดคล้องกันมีความเป็นมืออาชีพ ประกอบกับโรจนะเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีลูกค้า ทั้งในเอเชียและยุโรปและเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด นอกจากนี้ มีแผนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และกลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์เมื่อรัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องกฏระเบียบ

สำหรับระยะแรกคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติเงินลงทุนจำนวน 250 ล้านบาทเพื่อตอบสนองอุปสงค์ของกลุ่มลูกค้าที่ได้ส่งเอกสารแสดงความต้องการจะซื้อผลิตภัณฑ์ของทางบริษัท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเตรียมการเพื่อขยายกำลังการผลิตและรองรับความต้องการของตลาดที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอีกในระยะเวลา 2 ปี จะทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงตั้งแต่ปี 2565 ตั้งเป้าปีละ 1,000 ล้านบาท

ด้าน น.ส.รมย์ชลี กล่าวว่า บริษัท ฯ เห็นความสำคัญในการส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และได้เริ่มดำเนินโครงการไปแล้วในการทดสอบสายพันธุ์กัญชงเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตั้งแต่การเพาะปลูก การบำรุงรักษา ตลอดจนเก็บเกี่ยวผลผลิต และการแปรรูปจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ที่ผ่านมาได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับ การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ว่าด้วยความร่วมมือโครงการส่งเสริมการปลูกกัญชงเพื่อเสริมสร้างอาชีพและส่งเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร และ สมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบเชียงราย-พะเยา ปัจจุบันมีผู้มีความต้องการสารสกัด CBD ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นายภานุพล  กล่าวว่า นับเป็นความร่วมมือในการร่วมทุนที่สำคัญ ในการที่ทั้งสองบริษัทจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจกัญชงให้เป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์ทั้งในเชิงพาณิชย์และการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในเครือข่าย การยาสูบแห่งประเทศไทย กว่า 1,000 ราย ที่มีความสนใจเข้าร่วมโครงการกับ ยสท. โดยทาง ยสท.จะเป็นที่ปรึกษาแบบครบวงจร ทั้งด้านองค์ความรู้ ข้อกฏหมาย การปลูก ตลอดจนช่องทางการจำหน่าย ซึ่งเกษตรกรรวมถึงผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกับ ยสท. โดยตรง