posttoday

ไทยถอดบทเรียนวิกฤตโควิดพร้อมเปิดประเทศ ดึงต่างชาติลงทุน กระตุ้นท่องเที่ยววิถีใหม่

07 ตุลาคม 2564

‘สุพัฒนพงษ์’ ชี้ 2 ปี โควิดฉุดศก.รัฐ-เอกชนต้องเรียนรู้ มั่นใจไทยพร้อมเปิดประเทศ ดึงลงทุน กระตุ้นท่องเที่ยวคุณภาพ ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของประเทศ

นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน  เปิดเผยในงาน  Bangkokpost  Post   Forum 2021 Resilient Thailand: Ways to Bounce Back 'ประเทศไทยจะกลับมาแกร่งอีกครั้ง' ว่า  สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นในช่วงเกือบ 2 ปี ทั่วโลก ไทยต้องเผชิญความท้าทายเป็นโจทย์ใหม่ที่ต้องร่วมกันแก้ไขทุกภาคส่วน และสามารถคลี่คลายลงได้ในระดับหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก การประกาศล็อกดาวน์ เนื่องจากมีโควิดสายพันธุ์ใหม่  ขณะที่แผนการจัดหาวัคซีน มีการติดขัดบ้างช่วงแรก

ปัจจุบันเริ่มมีสัญญานบวกมากขึ้น แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อบ้าง และผู้เสียชีวิตเริ่มลดลง แต่ก็ประมาทไม่ได้ ยังต้องมีมาตรการป้องกันด้วยตัวเอง ร่วมกับมาตรการสาธารณสุข โดยมั่นใจภายในสิ้นปีนี้ไทยจะมีวัคซีนรองรับ 80 ล้านโดส  ขณะที่ปีหน้าตั้งเป้าหมายวัคซีน ไว้ที่ 150 ล้านโดส

อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ แต่ในปี 2564 แนวโน้มจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 หลังสถานการณ์ต่างๆเริ่มคลี่คลาย

สำหรับความพยายามให้ไทยมีความพร้อมในการเปิดประเทศรองรับเศรษฐกิจ นั้น ต้องยอมรับไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวจำนวนมาก เนื่องจากเคยสร้างรายได้มากกว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี ดังนั้นเราต้องถอดบทเรียนจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้เริ่มโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อก จากความร่วมมือของทุกฝ่าย สิ่งสำคัญต้องพยายามสร้างความสะดวกให้กับนักท่องเที่ย  และเฝ้าระวังระบบสาธารณสุข  เป้าหมายการเปิดประเทศ  หากทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงไตรมาส4 ปี 2564 และ ไตรมาสแรก 2565   จำนวน 1 ล้านคน ซึ่งต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูงมีคุณภาพจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ 

การขับเคลื่อนประเทศไทยในระยะต่อไป  เมื่อพิจารณาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (2565-2570) ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำความเห็น ได้มีการระบุในประเด็นลดภาวะโลกร้อน   จากสภาพอากาศผันผวน มีผลต่อสถานการณ์พลังงาน โดยกำหนดให้มีพลังงานทดแทนจาก ชีวมวล ชีวภาพ  โซลาร์เซลล์ พลังงานน้ำประเทศเพื่อนบ้าน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50 % ของการผลิตไฟฟ้า

นอกจากนี้มีการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ นิวเอสเคิร์ฟ  ยานยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์   ซึ่งตลอด7 ปีของรัฐบาล วางโครงสร้างพื้นฐานไว้รองรับ ทั้งระบบขนส่งมวลชนที่เกิดขึ้นจำนวนมาก เป็นการสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการลงทุนใหม่ๆ สิ่งที่ทำมา 165 โครงการ หลายคนบอกว่า มีแต่การกู้เงิน  แต่ก็เป็นการกู้เพื่อมาทำเรื่องเหล่านี้  มีแผนขยายความเจริญไปสู่ภูมิภาค   การพัฒนาเส้นทางคมนาคม   ตลอดจนการสร้างระบบนิเวศน์ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี ) โครงสร้างพื้นฐานดิจิตอล  การพัฒนานวัตกรรมในอีอีซี

“ปีนี้ยอดขอส่งเสริมบีโอไอจะสูงใกล้เคียงหรือมากกว่าช่วงเกิดโควิดได้ จากขณะนี้มีตัวเลขอยู่ที่ 4 แสนล้านบาท  เป็นสัญญาณที่ดีจากนักลงทุนต่างชาติ   เป็นผลจากการสร้างระบบนิเวศน์ทีดีมาโดยตลอด  มีการลงทุนกิจการใหม่ๆเพื่อก้าวไปสู่การพลิกโฉมประเทศไทย วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกัน เป็นช่วงรอยต่อของโควิด  เป็นความท้าทายของรัฐบาลที่ต้องไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ  เชื่อว่าทุกคนต้องร่วมมือกัน จะสามารถปรับเปลี่ยนประเทศได้”