posttoday

เอกชนเชื่อส่งออกปีนี้แตะ12% ห่วงต้นทุนขนส่งพุ่งกระทบออเดอร์ปลายปี

05 ตุลาคม 2564

สรท.มั่นใจสัญญาณส่งออกปีนี้โตได้ตามเป้าหมาย จี้รัฐเร่งฉีดวัคซีนคุมโควิดให้อยู่ หวั่นล็อกดาวน์อีกรอบกระทบส่งออกปลายปี

ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)  เปิดเผยว่า สถานการณ์ส่งออก เดือนส.ค. มีมูลค่า 21,976.23 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.93% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัยการส่งออกขยายตัว 19.43%)

ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า23,191.89 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว 47.92% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนส.ค. 2564 ขาดดุลเท่ากับ 1,215.66 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 49,832.40 ล้านบาท

สำหรับภาพ 8 เดือน(ม.ค.-ส.ค.) ไทยส่งออกรวมมูลค่า 176,961.71 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว15.25% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกใน 8 นี้ขยายตัว 21.22%)  โดยทั้งนี้สรท.ยังเป้าหมายส่งออกไทย เติบโต 12%  จากมีปัจจัยบวก เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐ จีน สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ฟื้นตัวต่อเนื่องและอุปสงค์ยังคงทรงตัวในระดับสูงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนทำให้เกิดความเชื่อมั่นของประชาชน รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากที่สุดในระยะ 4 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาดการณ์

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวังคือสถานการณ์การระบาดโควิด-19ที่มีความรุนแรงในประเทศ และการกระจายวัคซีนยังไมทั่วถึงจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่างจังหวัดเริ่มเพิ่มขึ้นหากภาครัฐไม่สามารถควบคุมการระบาดและเร่งกระจายวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายวัคซีนสองเข็ม 50 ล้านคนภายในสิ้นปี จนต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งจะส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก และการส่งออกจะไม่สามารถขยายตัวได้ตามที่คาดการณ์ไว้

นอกจกนี้ค่าระวางเรือมีทิศทางทรงตัวในระดับสูงจนถึงปลายปี 65 โดยเฉพาะ สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม อาทิ Peak Season Surcharge (PSS) ส่งผลต่อภาระต้นทุนการขนส่งสินค้าที่ผู้ส่งออกต้องจ่ายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนและราคาผันผวน อาทิ ชิป, เหล็ก ส่งผลให้ภาคการผลิตเพื่อส่งออก ยังคงประสบปัญหาอย่างต่อเนื่องและอาจส่งผลรุนแรงขึ้นในไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้การส่งออกไม่สามารถเติบโตได้ตามที่คาดการณ์

“ยังมั่นใจส่งออกปีนี้ทั้งปีจะโตได้ 12% ตามที่คาดการณ์ไว้  ซึ่งไตรมาสสุดท้ายน่าจะอยู่ที่เดือนละ 2.1-2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนจะโตถึง 14-15%หรือไม่ อาจจะเป็นไปได้ยากเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ขณะที่ปัญหาค่าระวางเรือที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งสรท.จะมีการประเมินภาพรวมอีกครั้งในเดือนพ.ย.นี้”

อย่างไรก็ตามสรท.ได้จัดทำข้อเสนอแนะไปยังภาครัฐ ดังนี้ 1.ขอให้เร่งฉีดวัคซีนกับพนักงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและภาคการผลิตที่เริ่มเข้ามาตรการ Factory Quarantine (FQ)  ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19  

2.เร่งแก้ไขปัญหาค่าระวางเรือในเส้นทางหลักให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมและไม่กระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์ระหว่างประเทศในระยะสั้นผู้ประกอบการอาจไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าขนส่งไหวและจะกระทบต่อการส่งออกในภาพรวมของประเทศ 3.เร่งจัดหาแรงงานป้อนเข้าสู่ระบบรองรับการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม และ 4.เร่งปรับลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าวัตถุดิบ อาทิ ภาษีสินค้าเหล็ก เซมิคอนดักเตอร์ วัตถุดิบสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับนำเข้าผลิตเพื่อส่งออก