posttoday

นักวิชาการจี้รัฐ-กองทัพเป็นเอกภาพแก้วิกฤต

08 เมษายน 2553

การปฏิรูปทางการเมืองและสังคมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ โดยต้องเป็นภารกิจที่สำคัญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ด้วยการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วน

การปฏิรูปทางการเมืองและสังคมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ โดยต้องเป็นภารกิจที่สำคัญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ด้วยการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วน

หมายเหตุ – กลุ่มนักวิชาการที่ยืนยันความถูกต้องต่อสังคมจำนวน 303 คน   ร่วมกันออกแถลงการณ์   เรื่อง “คัดค้านความรุนแรงที่ไร้สติ  ต่อต้านการยุบสภาที่ไร้เหตุผล   เร่งปฏิรูปการเมือง เพื่อเป็นทางออกต่อสังคม” มีรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคต ดังต่อไปนี้

รัฐต้องรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด 

รศ. สมชัย  ศรีสุทธิยากร  อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นักวิชาการจี้รัฐ-กองทัพเป็นเอกภาพแก้วิกฤต สมชัย

ขอขยายความแถลงการจุดยืนของนักวิชาการอย่างน้อย 303 คน ดังนี้ 

1. การชุมนุมทางการเมืองเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เป็นความชอบธรรมที่สามารถดำเนินการได้  แต่การกระทำผิดกฎหมาย ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อสาธารณะ การใช้ความรุนแรงข่มขู่  และสร้างความรู้สึกหวาดกลัวแก่ประชาชน  เป็นไม่ถูกต้อง และสังคมสมควรประนาม  ดังนั้น ทางนักวิชาการสนับสนุนให้มีการชุมนุมโดยถูกต้องและอยู่ในกรอบของกฎกหมาย ไม่สร้างความรู้สึกหวาดกลัวให้สังคม  แต่การชุมนุมของกลุ่มใดก็ตามที่ใช้ความรุนแรงด้วยการข่มขู่ให้เกิดความกลัวต่อสาธารณะ ทางกลุ่มนักวิชาการเห็นว่าเป็นการชุมนุมไม่ถูกต้องและขอประนาม

2. ข้อเรียกร้องเพื่อให้เกิดการยุบสภา  เป็นข้อเรียกร้องที่ปราศจากเหตุผลอันควร  การกล่าวอ้างถึงสังคมที่ไม่สงบ จนเป็นเหตุต้องยุบสภา  จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้  เป็นเหตุผลที่ไม่เหมาะสมที่จะมาใช้  ไม่เช่นนั้นจะเป็นแบบอย่างในอนาคตว่าใครก็ตามที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อยากให้ยุบสภา อยากให้รัฐบาลลาออก ก็จะใช้กระบวนการในการสร้างความรุนแรงขึ้นมาในสังคมเป็นการส่งเสริมให้เกิดแบบอย่างในการใช้กำลังรุนแรง และการกะเกณฑ์คนมาสร้างความเสียหาย  เพื่อหวังผลในเชิงการเมือง  จึง เป็นเรื่องรัฐบาลไม่จำเป็นต้องรับฟัง  หรือ ต้องเจรจาด้วยแต่อย่างใด

“ผมเชื่อว่ากลุ่มพลังต่างๆในสังคมมีพลังไม่น้อยไปกว่ากัน  เมื่อกลุ่มนี้ใช้วิธีการต่างๆ ทำให้รัฐบาลลาออกได้  ต่อไปในอนาคตกลุ่มอื่นๆก็จะใช้วิธีการเดียวกัน สังคมไทยก็จะไม่สามารถเป็นสังคมที่มีความสงบสุขต่อไปได้ ดังนั้น การยุบสภาต้องมีเหตุผล  ถ้ามีเหตุผลเพียงพอทำได้ แต่ถ้าเหตุผลแค่การผ่อนคลายสถานการณ์จากความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ”  นายสมชัย กล่าว

3. รัฐบาลจำเป็นต้องรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด  เพราะสังคมไทยเป็นสังคมนิติรัฐ  ดังนั้น หากสิ่งใดก็ตามที่เป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายและก่อให้เกิดปัญหาต่อสังคม   เราคิดว่ารัฐบาลควรเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาเพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่สังคม   เพื่อให้สังคมกลับไปสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด  เป็นหน้าที่ที่รัฐต้องเร่งรีบดำเนินการ  ก่อนที่บ้านเมืองจะเสียหายไปมากกว่านี้

4. การปฏิรูปทางการเมืองและสังคมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ โดยต้องเป็นภารกิจที่สำคัญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ด้วยการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วนมามองปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหา ความยากจน  และปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น  และร่วมกันออกแบบกลไกเพื่อการปฏิรูปการเมืองและสังคม ถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญสูงสุดของรัฐบาลชุดปัจจุบัน  และต้องทำด้วยความจริงใจ  เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า รัฐบาลตั้งใจจะแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน  โดยรัฐบาลต้องดำเนินการทันทีและจริงจังไม่ว่าจะมีการชุมนุมหรือไม่มีการชุมนุมก็ตาม

"เราไม่อยากเห็นทหารออกไปทำร้ายประชาชน แต่อยากเห็นทหารออกไปดูแลให้เกิดความเรียบร้อยในสังคมโดยไม่ทำร้ายประชาชน เพราะพลังของทหารสามารถทำได้อยู่แล้ว และที่ผ่านมาทหารก็ทำได้ดี แต่เป็นการดูแลทหารด้วยกันเองเท่านั้น แต่ไม่ดูแลประชาชน   เช่น การที่กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าจะไปกรมทหารราบที่ 11  ทหารได้แสดงพลังจนสามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้  รวมถึงการที่ผู้ชุมนุมจะเข้าไปทำเนียบก็สามารถหยุดได้  ดังนั้นสภาพที่เป็นอยู่จึงรู้สึกผิดหวังกับกองทัพที่ไม่สามารถดูแลประชาชนได้ ผมย้ำว่าไม่ยุให้ทหารปฏวัติรัฐประหาร และไม่ได้ให้ออกมาทำร้ายประชาชน แต่ให้ออกมาใช้พลังที่ตัวเองมีอยู่คืนความปกติสุขให้สังคม”

อย่าปล่อยให้คนทำผิดอยู่เหนือกฎหมาย

ศ.นพ.ประมวล วีรุตมเสน คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นักวิชาการจี้รัฐ-กองทัพเป็นเอกภาพแก้วิกฤต ประมวล

ขอยืนยันจุดยืนของตัวเองที่คิดและถามตัวเองอยู่ตลอดเวลา คือการ อยากเห็นความถูกต้องและเป็นธรรมในสังคมให้เกิดขึ้น ไม่อยากเห็นสังคมแตกแยกและกระทำการรุนแรงซึ่งกันและกัน    มีคนถามว่าผมเสื้อสีอะไร   ผมบอกว่าผมเป็นเสื้อที่ไม่มีสี เพราะสังคมเราใช้สีเป็นสัญลักษ์ของความเชื่อเท่านั้น  เหลือง แดง  ขาว แต่สัญลักษณ์ดังกล่าวกลับไม่นำไปสู่ของการตั้งคำถามว่าได้สื่อให้เห็นว่าสัญลักษณ์ที่ถืออยู่นั้นนำไปสู่เรื่องความถูกต้องและเรื่องความเป็นธรรมในสังคมหรือไม่

ดังนั้น อยากให้ข้อคิดว่า  ส่วนตัวอยากมองเห็นสังคมไทยทุกหมู่เหล่าไม่ว่าจะยากดีมีจน  ซึ่งตนเองตระหนักถึงความเดือดร้อนของทุกคนว่า เราต้องให้ความเป็นธรรมกับคนเหล่านั้น และต้องสร้างความถูกต้องให้กับเขาไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นเขา  โดยเรามีกฎหมายเพื่อเป็นกติกาที่ทุกคนยอมรับ ไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่งมีความขัดแย้ง  ต้องให้ศาลตัดสินและทุกคนต้องเคารพ

ดังนั้นการกระทำใดๆ ของกลุ่มคนใดๆทีไปละเมิดสิทธิคนอื่นที่แสนบริสุทธิ์  ขอให้ยุติการกระทำดังกล่าวดีกว่า เพราะสังคมเราไม่สามารถยอมรับได้  เพราะประชาชนคนกรุงเทพฯและคนอื่นๆ อึดอัด เพราะเดือดร้อน    ดังนั้น  ณ จุดนี้พวกเราทราบดีว่าปัญหามันสะสมมาอย่างยาวนาน

“อยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นใจคนกรุงเทพฯและคนที่เดือดร้อน โดยรัฐบาลพึงมองเห็นสิทธิของเขาบ้าง เพราะคนอีกกลุ่มจะใช้สัญลักษณ์อะไรก็ตามมีสิทธิมากมายเหลือเกิน  ทำให้ตนเองแม้ไม่ได้เกลียดชังคนเหล่านั้นแต่ก็ยอมรับไม่ได้  ทำไมคุณใช้สิทธิของคุณมากกว่าคนอื่น คุณใช้กติกาอะไร ผมคิดว่านี่คือความไม่ถูกต้อง  รัฐบาลควรดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์ให้เขาได้มีชีวิตเป็นปกติเหมือนเดิม ปกป้องคุ้มครองประชาชนให้ได้  ไม่เช่นนั้นท่านคงเป็นรัฐบาลต่อไปไม่ได้   ดังนั้นขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ  พึงสังวรอย่างยิ่งว่าต้องเข้ามาดูแลปกป้องสิทธิอันชอบธรรมทุกคน   ใครทำผิดต้องดำเนินการไม่ใช่ปล่อยปละละเลย  ไม่เช่นนั้นสังคมเราก็คงโกลาหลวุ่นวายไปมากกว่านี้"

เร่งแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง

ศ.ดร.สุรชัย  ศิริไกร อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นักวิชาการจี้รัฐ-กองทัพเป็นเอกภาพแก้วิกฤต สุรชัย

1.การเดินขบวนครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิที่เกินขอบเขตของการชุมนุมในระบอบประชาธิปไตย   และเป็นการละเมิดสิทธิบุคคลอื่นเป็นจำนวนมาก และถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ความขัดแย้งในสังคมจะเลวร้ายมากขึ้น   2.การเรียกร้องให้มีการยุบสภาภายใน 15 วันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องเพราะปัญหาการเมืองที่แท้จริง คือปัญหาที่เกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจการเมือง และมีมาอย่างยาวนาน   โดยหลายปัญหาต้องใช้เวลาแก้ไข ดังนั้น การเร่งรัดและด่วนสรุปให้มีการยุบสภา จึงไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะกระบวนการแบบนี้จะเป็นกระบวนการซ้ำเหมือนภายเรือในอ่าง

ทั้งนี้ปัญหาที่คู่กับการเมืองไทยโดยตลอด  คือ เรื่องช่องว่างของคนในสังคม ช่องว่างระหว่างเมืองกับชนบท ที่นับวันจะกว้างและรุนแรงมากขึ้นจนเป็นสาเหตุให้มีการหยิบยกขึ้นมาโจมตี ดังนั้น  รัฐต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ รวมถึงปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีความขัดแย้งกันมาอย่างยาวนาน   โดยสิ่งเหล่านี้ต้องมีการพูดให้ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการสร้างความเป็นธรรมและยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน   เพราะปัญหาเรื่องช่องว่างในสังคมเกิดจากปัญหาเหล่านี้ ที่คนเห็นว่าสังคมมีช่องว่างเพราะยังไม่มีความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันอย่างที่ควรจะเป็น

เราน่าจะใช้โอกาสนี้เร่งแก้ไขโดยให้พรรคการเมืองทุกฝ่ายร่วมมือกัน    โดยปัญหาที่มีอยู่ เช่น การปฏิรูปที่ดิน   ซึ่งเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่เคยมีการปฏิรูปที่ดินอย่างแท้จริง และเป็นสาเหตุของความเหลื่อมล้ำ ช่องว่างในสังคมเกิดขึ้น  ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้ควรหยิบยกขึ้นมาเจรจาหรืออย่างน้อยควรอยู่ในแผนการพัฒนาของรัฐบาลทุกชุด เพราะหากเราสามารถแก้ปัญหาที่เป็นรากฐานได้ ปัญหาการเมืองก็จะยุติหรือลดน้อยถอยลงไปเอง

“ที่สำคัญข้าราชการทุกหน่วยเรา ควรจะทำต้องทำตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ท่านมีอยู่  ไม่ควรจะที่ปล่อยเกียร์ว่างทำให้ประเทศชาติสังคมแตกแยกมากกว่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  โดยเฉพาะตอนนี้ที่มีการใช้สื่อโจมตีบิดเบือนอย่างเลวร้ายที่สุด  จากดำเป็นขาว จากขาวเป็นดำ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้จมาก่อน โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และเป็นช่องว่างที่แต่ละฝ่ายจะพยายามใช้สื่อเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองด้วยการสร้างความแตกแยกในสังคม

ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องแก้ไขสิ่งเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นความแตกแยกในสังคมจะลึกและกว้างขึ้นเรื่อยๆ  เพราะกลุ่มที่พยายามสร้างความแตกแยกพยายามให้กระทุ้งให้แตกแยกมากกว่านี้ ในอนาคตจะเป็นอันตรายมากกว่านี้   ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องมีแผนการดำเนินการที่เด็ดขาด ยึดหลักกฎหมาย แต่ขณะเดียวกันต้องเปิดช่องว่างรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆเพื่อร่วมมือกันหาทางออก  เพื่อให้ประชามติร่วมกัน เพื่อกันแก้ครหาว่าทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”

เพราะฉะนั้นการยุบสภา 15วันจึงเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องใช้เวลา 6 -9 เดือนเป็นอย่างน้อย ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับผู้ที่มีส่วนร่วมในการเจรจา ส่วนตัวยังเห็นว่าการเจรจาและระดมความเห็นของอดีตนายกรัฐมนตรี  อดีตนักการเมือง  และกลุ่มต่างๆที่มีความเห็นทางการเมือง สามารถทำได้เพื่อให้สังคมไทยกลับมาสู่ภาวะปกติและพัฒนาประเทศต่อไป

ถึงเวลาปฏิรูปสังคมครั้งใหญ่

ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

ประเทศชาติเข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้วและจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดเข้มแข็ง  ทั้งนี้หวังว่าการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินน่าจะแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง    ทั้งนี้เชื่อว่าฝ่ายเสื้อแดงไม่เจรจากับรัฐบาลแน่นอน ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องเข้าไปเจรจากับประชาชน  เช่น  การทำประชามติเรื่องต่างๆ  อาทิ เรื่องการแก้ไขรัฐะธรรม  การยุบสภา การนิรโทษกรรม  หลังจากนั้นก็ทำตามผลประชามติ

นอกจากนี้ต้องมาพิจารณาว่าสังคมไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะวันนี้ดูเหมือนว่าต้องเป็น “แดงจำยอม” ที่ไม่มีที่พึ่ง  เพราะแต่เรื่องของสีแดง จนทำให้คนไม่อยากอยู่ในภาวะขัดขืน จนต้องเป็นแดงจำยอมว่าเป็นคนแดงไปด้วย ดังนั้น ต้องเกิดการปฏิรูปครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดการแก้ไขวิกฤตเหล่านี้ เพื่อให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในสังคมไม่เช่นนั้นสังคมไทยจะไปไม่รอด   ดังนั้น ต้อวมีการสังคายนาประเทศ  โดยเฉพาะกลุ่มนักวิชาการที่อาจจะมีการกระจายคุยกันในหลายๆ ภูมิภาค เพื่อนำข้อสรุปที่ตกผลึกมาแก้ไข 

หยุดการบิดเบือนเร่งทำความเข้าใจประชาชน

นพ.สุธีร์ รัตนะมงคลกุล อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนทร์วิโรฒ

นักวิชาการจี้รัฐ-กองทัพเป็นเอกภาพแก้วิกฤต ทวี

ปัญหาของบ้านเมืองควรมีการกำหนดให้ชัดเจน ทั้งปัญหาเรื่องชนชั้นและเรื่องช่องว่างทางสังคมที่คนเสื้อแดงพูดถึง แต่การเสนอทางออกให้มีการยุบสภานั้น ต้องถามว่าเป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือไม่ และถ้าไม่ใช่ต้องทำอะไรก่อน   ทั้งนี้ในเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะคิดถึงเรื่อง บาดเจ็บล้มตายเท่านั้นจนทำให้ดูเหมือนว่ายังไม่เกิดความรุนแรง  แต่ทำไมไม่มองเรื่องปัญหาชื่อเสียงบ้านเมือง เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการสัญจรที่กระทบต่อชีวิตด้วย   ตรงนี้เป็นความรุนแรงหรือเปล่าม เพราะคงไม่ใช่รอให้คนบาดเจ็บล้มตายเพียงอย่างเดียว   คนในประเทศควรต้องมีการพิจารณาด้วย

รวมถึงการให้ข้อมูลต่างๆ ต้องไม่มีการบิดเบือน เพราะชาวบ้านบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมีอีกมาก อีกทั้งสองฝ่ายควรให้ความจริงใจต่อกัน   และการหาทางออกด้วยการเจรจาโดยผู้ที่มีอำนาจควรใช้อำนาจเพื่อให้บ้านเมืองได้อยู่ในความสงบสุข

 

 

 

ยุบสภาไม่แก้ปัญหา -คนไม่เห็นด้วยต้องกล้าแสดงออก

รศ.หริรักษ์ สูตระบุตร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

การยุบสภาจะไม่แก้ปัญหาใดๆ และจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ที่ทั้งสองฝ่ายต้องการชนะเลือกตั้ง ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นคงยากที่จะมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม หากมีการยุบสภาโดยเร็ว บ้านเมืองในขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤตที่สุดแล้ว  อยากให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด และขอเรียกให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่ไม่เป็นสันติ อหิงสา แสดงออก เพราะการบังคับใช้กฎหมายกับคนจำนวนมากแบบนี้คงเป็นเรื่องยาก  และยังหากแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็ควรทำตามที่ที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.)เสนอ ว่าให้มีการทำประชามติไปเลยว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่

บังคับใช้กฎหมาย-ปฏิรูปการเมืองอีกครั้ง

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ คณะแพทย์ศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นักวิชาการจี้รัฐ-กองทัพเป็นเอกภาพแก้วิกฤต ตุลย์

ปัญหาเรื่องชนชั้นมีอยู่จริง แต่การยุบสภาไม่ใช่ทางออก แต่ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นตอนนี้คือการเรียกร้องให้มีการชุมนุมโดยข้อมูลที่เป็นเท็จ  เพราะชาวบ้านไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นจริง ดังนั้น รัฐบาลและสื่อต้องให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะการให้ข้อมูลกับผู้ชุมนุม    ไม่เช่นนั้นสถานการณ์จะเกินการควบคุมเพราะจะมีการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง และคนที่เดือดร้อนคือทุกคนในประเทศ และประเทศชาติจะพ่ายแพ้  ระยะสั้นต้องปิดกั้นการให้มูลข่าวสารที่เป็นเท็จ

ในระยะยาวต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดแต่ต้องละมุมละม่อม  โดยไม่อยากเห็นการบาดเจ็บล้มตายของฝ่ายใดทั้งสิ้น  โดยต้องทำตามหลักสากล จากนั้นต้องมีการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจต่อไป

ในส่วนการทำหน้าที่ของทหารนั้น  ดูเหมือนว่าตอนนี้อ่อนแอมาก เพราะปล่อยให้มีการระเบิดในฐานที่ตั้งตัวเองหลายครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอาย และหากทหารยังนิ่งเฉย ภาคประชาชนคงบอกว่า  หลับเถิดทหารกล้า  ปวงประชาจะคุ้มภัย และหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ เชื่อว่าประชาชนจะออกมาแน่นอน  ซึ่งเราไม่อยากเห็นภาพนั้นแต่อยากเห็นทหารให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งไม่ใช่การสนับสนุนรัฐบาลอภิสิทธิ์  แต่เป็นการทำเพื่อบ้านเมืองเพื่อคนทั้งประเทศ   ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เรื่องของคนเสื้อแดงที่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของคนที่คัดค้านการยุบสภาด้วย   ถึงจะเรียกว่าประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ทหารต้องทำหน้าที่

พล.อ.สายหยุด เกิดผล ประธานมูลนิธิองค์กรกลาง และอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด

สถานการณ์ในขณะนี้รัฐบาลต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง  โดยการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือว่าเป็นไม้สุดท้ายที่ให้ใช้ทหารได้  แต่เราไม่ต้องการเห็นความรุนแรงด้วยการใช้ปืน แต่ทหารสามารถทำได้หลายทาง เช่น 1.การโชว์กำลังที่จะได้ผลก็ต่อเมื่อเป็นกำลังที่ประชาชนเกรงกลัวและนับถือ   คือต้องเป็นกำลังที่มีระเบียบ มีวินัย ประชาชนจะเชื่อถือ   2. การเจรจาเพราะเราไม่อยากให้มีการใช้กำลัง  ทหารสามารถเจรจาได้โดยต้องเป็นคนที่มีอำนาจและสามารถพูดรู้เรื่องและค่อยๆทำความเข้าใจกันไปเรื่อยๆ   ทั้งนี้จากการติดตามข่าวรู้สึกไม่สบายใจ เพราะรู้สึกว่าทหารกับรัฐบาลไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  มีความแตกแยกกัน โดยสิ่งที่ประชาชนจับตาดูคือการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เป็นอำนาจของทหาร ซึ่งเป็นผู้ใช้กำลัง เพราะฝ่ายการเมืองแค่วางนโยบายเท่านั้น ดังนั้น  คนที่รับผิดชอบต้องออกมาพูด   โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องออกมาพูด

“ทหารต้องทำ เพราะมีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว อยากถามว่ากลัวอะไร  ถ้าเป็นผมทำไปแล้วถ้าประชาชนไม่ชอบใจก็ปลดผมก็เท่านั้น ไม่เห็นต้องกลัวอะไร   แต่วันนี้กลับไม่รู้ว่าใครเป็นคนปฏิบัติจริงๆ  ดังนั้นต้องบอกว่าใครคือคนที่รับผิดชอบจริงๆกับประชาชน  เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจไม่ใช่ปล่อยให้ฝ่ายการเมืองพูดกับประชาชนอย่างเดียวแบบที่ผ่านมา  เพราะประชาชนยังสงสัยว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ดังนั้น ต้องมีความกล้าหาญ ถ้าไม่ทำก็ลาออกไป” 

ทั้งนี้ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้น  ส่วนตัวเห็นว่าต้นตอมาจากการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยเที่ยงธรรม ดังนั้นการแก้ปัญหาทางหนึ่ง คือการให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธ์เที่ยงธรรม ที่ไม่ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม ดังนั้น  การยุบสภาไม่ใช่การแก้ปัญหา  ทั้งนี้รัฐบาลต้องชี้แจงความจริงให้ประชาชน โดยยอมรับไปเลยว่าเป็น อำมาตยาธิปไตย  อีกฝ่ายเป็น ธนาธิปไตย   ต้องมีการพูดให้ชัดเจนว่าจะเอาแบบไหน   อย่ามาบิดเบือนดีกว่าว่าใครเป็นประชาธิปไตยมากกว่ากัน เพราะขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายใดเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง