posttoday

รฟท. เดินหน้าตั้งบริษัทลูกบริหารทรัพย์สิน คาดสร้างรายได้ 1.25 แสนล.ใน10ปี

25 สิงหาคม 2564

รฟท.เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลง ตั้งบริษัทลูก บริหารทรัพย์สินทั้งหมด คาดชัดเจน ธ.ค. นี้ มั่นใจ สร้างรายได้กว่า 1.25แสน ล้านบาทใน 10 ปี

เมื่อวันที่ 25 สค.64 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประชุมมอบนโยบายและติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟ แห่งประเทศไทย ผ่านระบบออนไลน์ Application “Zoom” โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง นายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย และรักษาการกรรมการผู้จัดการ/คณะกรรมการบริหารบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด และผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าร่วมการประชุม

ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการที่เกี่ยวกับบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของ รฟท. ให้ที่ประชุมทราบ ดังนี้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด และการรถไฟแห่งประเทศไทยเตรียมทำความตกลง โดยลงนาม ในบันทึกข้อตกลงหลักหรือธรรมนูญใหญ่ที่ใช้ในการดำเนินงานระหว่างกัน หรือที่เรียกว่า “Master Agreement” ในเร็วๆ นี้

โดยในข้อตกลงดังกล่าวจะมีการระบุให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เป็นผู้ทำหน้าที่หลักในการบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าย่อมหมายความรวมถึงการให้สิทธิในการบริหารอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยที่ดินดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาลและมีศักยภาพสูงมาก ซึ่งการบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ดำเนินการโดย บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จะมีการใช้วิธีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารใหม่ ทำให้บริษัทมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในยุคโลกาภิวัตน์

ในการนี้ นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการรถไฟฯ และรักษาการ กรรมการผู้จัดการ/คณะกรรมการบริหาร บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จึงได้มีการดำเนินการเตรียมความพร้อม และการวางแผนการดำเนินงานให้แล้วเสร็จไปในหลายเรื่องๆ แล้วอย่างเป็นระบบ ภายในระยะเวลาอันสั้น เช่น ในด้านกระบวนการทางกฎหมายได้มีการขอยกเว้นพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนในด้านการบริหารจัดการ และทางด้านธุรกิจ ได้มีการวางแผนในการกำหนดการมอบสิทธิในการบริหารที่ดิน เพื่อให้บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เตรียมความพร้อมในการรับมอบสิทธิการบริการที่ดิน เป็นต้น

นอกจากนี้ ทางบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ยังได้มีการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารโครงการใหญ่ๆ โดยมีดำเนินการในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่ได้ดำเนินการในรูปแบบการให้เช่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ การดำเนินการในการบริหารสิทธิในที่ดินต่างๆ คาดว่าจะถูกทำให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนได้ภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางการเงิน คาดว่าบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้โดยมีมูลค่าสูงถึง 125,175.44 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปี ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับทราบรายงานดังกล่าวฯ พร้อมมอบนโยบายแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ให้เร่งดำเนินการเพิ่มเติม โดยมีข้อสั่งการ ดังนี้

1. เนื่องจากยังมีพื้นที่แปลงใหญ่ที่มีศักยภาพ เช่น พื้นที่บริเวณถนนพระราม 9 จากแยกคลองตัน และถนนรัชดาภิเษก จึงควรนำไปพิจารณาเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ ให้เร่งนำพื้นที่แปลงขนาดกลางและขนาดเล็กมาเร่งพัฒนาให้เกิดรายได้ก่อน

2. เปรียบเทียบบริษัทลูก ของบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด กับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด เพิ่มเติม เพื่อสร้างความคล่องตัวและเสริมศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งนี้ ให้ความสำคัญกับหลักธรรมาภิบาล

3. ให้ความสำคัญกับการสรรหาผู้บริหาร รวมทั้งรายละเอียดของเงื่อนไขการจ้างให้มีความเป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาล

4. สถานีธนบุรี มีความสำคัญอยู่ติดกับโรงพยาบาลศิริราช มีระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อถึง 3 สาย สามารถใช้เป็นต้นแบบการพัฒนาแบบ TOD ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ดังนั้น ให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาแบบรอบด้าน และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรเข้ามาบูรณาการความร่วมมือด้วย

5. ให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท เข้าไปพิจารณาความเหมาะสมของการพัฒนาพื้นที่แปลงศูนย์การแพทย์บริเวณสวนจตุจักรด้วย