posttoday

กรมเชื้อเพลิงฯ ชี้แหล่งเอราวัณผลิตก๊าซฯไม่ได้ตามแผน

08 กรกฎาคม 2564

ปตท.สผ.อีดีเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณล่าช้ากระทบแผนผลิตก๊าซฯวันละ 800 ล้านลบ.ฟุต ขณะที่กรมเชื้อเพลิงฯช่วยประสานเชฟรอนหาทางออกเร็วที่สุด

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่าได้เร่งประสานารเจรจาระหว่างบริษัทปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (ปตท.สผ.ดีอี) กับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เพื่อให้เข้าพื้นที่สำรวจแหล่งสัมปทานปิโตรเลียม แปลง G1/61 หรือกลุ่มเอราวัณเดิม โดยมุ่งยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก

ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ประสานให้บริษัทปตท.สผ.อีดี ผู้ดำเนินงานรายใหม่ ในแปลง G1/61 ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต และ บริษัท เชฟรอนฯ ผู้รับสัมปทานรายเดิม มาหารือร่วมกันไม่น้อยกว่า 30 ครั้ง ทั้งในระดับผู้บริหารองค์กร และในระดับปฏิบัติการเพื่อให้การดำเนินงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition Period) เป็นไปอย่างราบรื่น

สำหรับผลที่ได้ถือว่าดำเนินงานสำเร็จไปพอสมควร สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในหลายๆ ประเด็น เช่น การเข้าพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่าง การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม การสำรวจพื้นที่เบื้องต้นเพื่อติดตั้งแท่นหลุมผลิต เป็นต้น

อย่างไรก็ตามด้วยความซับซ้อนในการดำเนินงานช่วงเปลี่ยนผ่านจึงยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังต้องหาข้อตกลงที่เหมาะสมร่วมกันให้ได้ โดยกุญแจสำคัญที่จะทำให้ความพยายามในการประสานการเจรจาของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติประสบความสำเร็จนั้นก็คือทั้งผู้ดำเนินงานรายปัจจุบันและรายใหม่จะต้องร่วมมือกันอย่างจริงใจและเร่งด่วนให้ได้ข้อตกลงร่วมกันเพื่อให้การผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน

สำหรับบริษัท ปตท.สผ. อีดี เป็นผู้ชนะการประมูลและจะเป็นผู้ดำเนินงานรายใหม่ในแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณหลังจากสัมปทานของบริษัทเชฟรอนฯ หมดอายุลงในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ซึ่งตามเงื่อนไขการประมูลนั้น บริษัท ปตท.สผ. อีดี จะต้องผลิตก๊าซธรรมชาติให้ได้ในอัตรา 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่ด้วยความล่าช้าในการเข้าพื้นที่ อาจทำให้ไม่สามารถผลิตปิโตรเลียมได้อย่างต่อเนื่อง