posttoday

ปตท.สผ.โชว์กำไรไตรมาสแรกทะลุ 1 หมื่นล้าน

28 เมษายน 2564

ปตท.สผ.ชี้ราคาน้ำมันตลาดโลกฟื้นตัว ดันรายได้ไตรมาสแรกเติบโตดี ส่งผลต่อกำไรพุ่ง 364 % วางแผนปรับเป้ายอดขายปีนี้แตะ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ปี 2564 ปตท.สผ. มีรายได้รวม 1,779 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ  54,034 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับ 1,348 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 40,494  ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2563 โดยรายได้หลักมาจากการขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,391 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่สูงขึ้นร้อยละ 10 มาอยู่ที่ 40.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ในไตรมาสแรกบริษัทมีกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ (Non-recurring item) เพิ่มขึ้น จากการซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 20 ในโครงการโอมาน แปลง 61 ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม จำนวน 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 10,772  ล้านบาท

ทั้งนี้ในไตรมาส 1 นี้ บริษัทมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 382,877 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีปริมาณ 381,285 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

สำหรับค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 1 อยู่ที่ 1,213 ล้านดอลลาร์ สหรัฐหรือ   36,764 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าในไตรมาสนี้ บริษัทจะมีรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) และค่าใช้จ่ายในการบริหาร (General & Administrative Expenses) ลดลง แต่บริษัทมีการบันทึกรายจ่ายที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานปกติจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์โครงการสำรวจในประเทศบราซิล จำนวน 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่ 107 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ ปตท.สผ.มีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 จำนวน 376 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 11,534 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 364 เมื่อเทียบไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา และมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา ที่ร้อยละ 74 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ลงมาอยู่ที่ 27.96 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ

“ผลการดำเนินงานของ ปตท.สผ. ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาขายที่เริ่มฟื้นตัวตามน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงความสำเร็จจากการซื้อสัดส่วนการลงทุนในแปลง 61 ประเทศโอมาน และการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการมาเลเซีย - แปลงเอช เร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณการขายได้ทันที  โดยเตรียมปรับเพิ่มเป้าหมายการขายในปีนี้ขึ้นเป็น 405,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน “

นายพงศธร  กล่าวว่า ด้านการสำรวจปิโตรเลียม ได้ค้นพบแหล่งปิโตรเลียมใหม่ ๆ จากการเจาะหลุมสำรวจในมาเลเซียหลายแปลง เช่น หลุมโดกง-1 ในโครงการซาราวัก เอสเค 417 และหลุมซีรุง-1 ในโครงการซาราวัก เอสเค 405บี โดยยังมีแผนการเจาะสำรวจเพื่อค้นหาแหล่งน้ำมันและก๊าซฯ ในแปลงอื่น ๆ ด้วย

ส่วนแหล่งลัง เลอบาห์ ในโครงการซาราวัก เอสเค 410บี ซึ่งเราค้นพบก๊าซธรรมชาติปริมาณสูงในปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อทำการเจาะหลุมประเมินผลในปีนี้ พบว่ามีปริมาณก๊าซฯ มากกว่าที่คาดไว้ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยสำรวจพบ ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้กับ ปตท.สผ. ในอนาคตแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างฐานการลงทุนของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกด้วย