posttoday

ปตท.สผ.เจอพิษโควิด กำไรวูบ 54% ตั้งงบลงทุน 1.3แสนล.ลุยธุรกิจต่อ

28 มกราคม 2564

ปตท.สผ.ชี้ปี’63 เผชิญความผันผวนราคาน้ำมันผลพวงโควิด-19 ฉุดกำไร เหลือ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจรักษาฐานโครงการเก่ามองหาโอกาสใหม่ พร้อมจ่ายปันผล 4.25 บาทต่อหุ้น

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 5,357 ล้านดอลลาร์สหรับ (เทียบเท่า 167,418  ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 16 จากปีก่อนโดยปัจจัยหลักมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยลดลง ร้อยละ 18  ทั้งนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงมากในปี 2563 เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานที่ลดลงจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19

ด้านปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 354,052 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ส่งผลให้ ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิในปี 2563 ที่ 720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 22,664 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 54 จากปี 2562  โดยยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งด้วยเงินสดในมือ 3,804 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 114,261 ล้านบาท)

สำหรับแผนการลงทุนปี 2564 ปตท.สผ. ได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 4,196 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 132,174 ล้านบาท) เพื่อรักษากำลังการผลิตจากโครงการหลัก เร่งพัฒนาโครงการสำคัญเพื่อเริ่มการผลิตให้ได้ตามแผนที่วางไว้ และดำเนินกิจกรรมการสำรวจเพื่อการเติบโตในระยะยาว

ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยไว้ที่ 375,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากการเริ่มการผลิตปิโตรเลียมใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ และโครงการมาเลเซีย – แปลงเอช

อย่างไรก็ตามจากผลประกอบการข้างต้น คณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 อนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผล สำหรับปี 2563 ที่ 4.25 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้จ่ายสำหรับงวด 6 เดือนแรกไปแล้วในอัตรา 1.50 บาทต่อหุ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563  ส่วนที่เหลืออีก 2.75 บาทต่อหุ้น จะกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 2 มีนาคม 2564 และจะจ่ายในวันที่ 26 เมษายน 2564 ภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2564 แล้ว 

นายพงศธร   กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาธุรกิจปิโตรเลียมต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก ทั้งเรื่องสงครามราคาน้ำมัน และผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ซึ่ง ปตท.สผ. ได้รับผลกระทบดังกล่าวเช่นกัน แต่บริษัทยังคงมีผลกำไรใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากได้การปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อให้โครงสร้างต้นทุนลดลง แต่ยังคงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และยังสามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมาย เช่น การได้รับสิทธิสำรวจแปลง 12 ในโอมาน และการชนะการประมูลแปลงสำรวจออฟชอร์ 3 ในยูเออี

นอกจากนี้ ยังได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาให้เดินหน้าพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ (Integrated Domestic Gas to Power) รวมถึงการขยายธุรกิจ AI & Robotics Venture (ARV) เพื่อให้บริการด้านการเกษตรแบบครบวงจรในรูปแบบของแพลตฟอร์ม และธุรกิจการบริการงานวิศวกรรมใต้ทะเล ตามแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งความสำเร็จต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2563 นั้น จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในระยะยาว