ซัสโก้ปรับแผนธุรกิจรุกอินโดจีน

ซัสโก้ หมดใจภาครัฐ ปรับแผนธุรกิจรุกตลาดอินโดจีน ทุ่มงบ 100 ล้านบาท สยายปีกสู่ ลาว กัมพูชา ตั้งเป้าส่งออกโต 30% ภาพรวมโต 10%

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้า บริษัทจะเน้นทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน หรือภูมิภาคอินโดจีนให้มากขึ้น ไม่ว่าจะในรูปของการส่งออกน้ำมัน หรือการเข้าไปร่วมทุน และสร้างปั๊มในประเทศลาว กัมพูชา เนื่องจากตลาดน้ำมันภายในประเทศไทยอิ่มตัวแล้วอัตราการใช้น้ำมันเริ่มลดน้อยลงเรื่อยหรือปริมาณการใช้น้ำมันภายในประเทศจะเติบโตเพียง 1 – 2% ในขณะที่พลังงานทางเลือก เช่น แอลพีจี และเอ็นจีวี มีอัตรากรเติบโตเพิ่มขึ้น 

“นับต่อจากนี้ไปบริษัทจะเข้าทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย 600 ล้านคน ไม่ใช่เพียง 60 ล้านคนอีกต่อไป ซึ่งในประเทศเพื่อนบ้านยังมีอัตราการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับคุณภาพน้ำมันจากประเทศไทยดีกว่าประเทศเวียดนาม อีกปัจจัยสำคัญหนึ่งที่เป็นเหตุให้บริษัทหันไปสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น คือความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐต่อธุรกิจพลังงานภายในประเทศ เช่น ราคาน้ำมัน การกำหนดราคาเอ็นจีวี การพยุงราคาแอลพีจี ซึ่งไม่เป็นไปตามกลไกตลาด ทำให้กำไรจากการขายน้ำมันน้อยมากเมื่อหักลบกับค่าปฏิบัติการต่างๆ เช่น ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ขณะที่การเข้าทำไปตลาดในต่างประเทศมีกำไรมากกว่า เพราะต้นทุนการก่อสร้าง ค่าจ้างพนังงาน
 ถูกกว่าประเทศไทยมาก”นายชัยฤทธิ์ กล่าว

สำหรับ งบลงทุนที่บริษัทเตรียมไว้สำหรับการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอยู่ที่ 100 ล้านบาท ในรูปของการลงทุนสร้างปั๊มเอง หรือการเข้าซื้อกิจการ ปั๊มน้ำมันต่อจากปั๊มเดิมที่มีอยู่ เป็นต้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเติบโตทางด้านยอดขายจากการส่งออกน้ำมันและการดำเนินการในต่างประเทศของปีหน้าไว้ที่ 30% เท่ากับปีนี้โดยจะผลักดันให้สัดส่วนรายได้จากการส่งออกให้เติบโตขึ้นจาก 30% ในปีนี้ ไปที่ 50% ในปีหน้า

ทางด้านแผนการดำเนินงานภายในประเทศ บริษัทจะลงทุนเป็นเงิน 50 ล้านบาท ในการเปิดปั๊มใหม่ 5 – 10 แห่ง ขึ้นอยู่พื้นที่ ซึ่งเป็นการขยายสาขาในจำนวนที่น้อย เนื่องจากจำนวนปั๊มน้ำมันภายในประเทศไทยอิ่มตัวแล้ว และงบดังกล่าวยังใช้ในการปรัปปรุงปั๊มเดิมที่ปัจจุบันมีอยู่ 150 แห่ง แบ่งเป็น ปั๊มแอลพีจี 7 แห่ง และปั๊มเอ็นจีวี 7 แห่ง โดยในปีหน้าบริษัทจะเปิดปั๊มเอ็นจีวีอีก 1 ปั๊ม และไม่มีแผนจะขยายเพิ่มอีก ที่เหลือเป็นปั๊มน้ำมันทั้งหมด

ทั้งนี้จากแผนการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทจะผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตทางด้านรายได้ที่ 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 11,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้รวม 10,000 ล้านบาท เป็นปีแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้แล้ว 7,700 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังแผนที่จะส่งเสริมตลาด เพื่อรักษาฐานลูกค้าของบริษัท ซึ่งเป็นคนในชุมชน และผู้นำเดินธุรกิจขนส่งที่ต้องการเติมน้ำมัน ไม่ได้ต้องการพักผ่อน ซื้อของภายในปั๊มน้ำมัน ด้วยงบ 30 ล้านบาท