เอกชนแนะเร่งพัฒนาอุตฯต่อเนื่องรถไฟฟ้า

ไทยซัมมิท จี้กระทรวงอุตฯ เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องรถไฟฟ้า หวังให้ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการไทย

นายชัยวุฒิ  บรรณวัฒน์  รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังนายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ  รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มไทยซัมมิท เข้าพบว่า กลุ่มไทยซัมมิทต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งผลักดันอุตสาหกรรมต่อเนื่องรถไฟฟ้า  ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมมีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องรถไฟฟ้าอยู่แล้วก็จะเร่งให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อเสนอคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (กอช.)  โดยกลุ่มไทยซัมมิทเป็นผู้ผลิติ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของไทยจึงต้องการให้อุตสาหกรรมดังกล่าวเกิดขึ้น

นายธนาธร กล่าวว่า การผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์  ซึ่งชิ้นส่วนรถไฟฟ้าหลายประเภทสามารถผลิตในไทยได้จึงเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมนี้เพื่อรองรับการลงทุนรถไฟฟ้า  โดยการลงทุนรถไฟฟ้า 1 สาย ใช้เงินลงทุนประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน 50 % และอีก 50 % เป็นค่าใช้จ่ายระบบและตัวรถไฟฟ้า ซึ่งค่าใช้จ่ายของระบบและตัวรถไฟฟ้าควรจะหมุนเวียนอยู่ในไทย แต่การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ต้องใช้เวลาจึงต้องเร่งพัฒนา

ทั้งนี้ ไทยซัมมิทมองการผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้าไว้ 2 ส่วน คือ 1.การปรับสายการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เดิมมาผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้า  2.การลงทุนสายการผลิตใหม่เพื่อผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้า

นายธนาธร กล่าวว่า ไทยซัมมิทคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท  โดยสัดส่วนรายได้จากฐานการผลิตในต่างประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้น  ซึ่งในปัจจุบันมีสัดส่วน 25-30 % ของรายได้รวมทั้งหมด  แต่ภายใน 3-5 ปี สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 40 %  โดยปัจจุบันไทยซัมมิทมีฐานการผลิตในอินเดีย เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น มาเลเซียและออสเตรเลีย

นอกจากนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง  โดยคาดว่าปี 2554 ไทยจะผลิตรถยนต์ได้ 2 ล้านคัน สูงกว่าปี 2553 ที่ผลิตรถยนต์ได้ 1.7 ล้านคัน  และอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะขยายตัวมากในปี 2555-2556 เพราะขณะนี้บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่กำลังลงทุนสายการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐาน (อีโคคาร์)  ซึ่งจะทำให้ปี 2557 ไทยจะผลิตรถยนต์ได้ 2.5 ล้าน โดยอัตราการเติบโตจะอยู่ที่ระดับยัง 10 % ต่อปี