เศรษฐกิจไทยฟื้นเร็วภายใน1ปีครึ่ง

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจต่างๆ แล้ว 8 แสนล้าน แต่รัฐบาลก็ยังเหลือเงินเพียงพอประคับประคองและฟื้นฟูเศรษฐกิจในอนาคต

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2563 จะขยายตัวลบ 6% จากเดิมที่มีการประเมินกันเกือบทุกแห่งว่าเศรษฐกิจจะติด 10-12% จะต้องใช้เวลาฟื้นตัว 3 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณอันตราย จะมีการว่างงานจำนวนมาก แต่เมื่อเศรษฐกิจไทยติดลบ 6% หรือต่ำกว่า 6 หากมีการช่วยกันบริโภคเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะโต 3-4% แลพภายใน 12-18 เดือน เศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นกลับสู่ภาวะปกติก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเร็วว่ากว่าที่คาดการไว้เดิม

"เศรษฐกิจไทยผ่านพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว อัตราการถดถอยไม่ได้ต่ำเหมือนที่คาดคิดไว้ รัฐบาลดูแลฐานรากและผู้ประกอบการคนตัวเล็ก เราผ่านจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจและเราพร้อมแล้ว หนี้สิน 6.8 ล้านล้าน ลูกหนี้ 12.5 ล้านรายที่พักหนี้ตั้งแต่เมษายน ครบกำหนดเมื่อ ต.ค. ที่ผ่านมา ธปท. และ ธพ. พิจารณาแล้วโดยรวมพอไปได้และยืนได้ประมาณ 94% ส่วนอีก 6% ต้องเข้าไปดูแล ไม่น่าเป็นห่วงเพราะสถานการณ์ของธนาคารพาณิชย์เข้มแข็งเพียงพอที่จะรองรับลูกหนี้ที่มีปัญหาต่อไปได้ ไม่ได้มีความน่าเสียหาย ความน่ากัวกว่าจะฟื้นตัว 3-4 ปีเหมือนวิกฤติต้มยำกุ้งคงไม่เกิดขึ้น" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้ายังมีความท้าทาย วัคซีนกว่าจะใช้ได้ไตรมาส 2-3 ต้องทำให้มีความเติบโตให้ได้ ตั้งเป้า 12-18 เดือนจะต้องกลับมาเหมือนเดิม สิ่งที่อยากเห็นรัฐบาลตั้งใจอย่างมาก ปีหน้าเป็นปีแห่งการเตรียมตัวเพื่อเปลี่ยนประเทศไทย ทั้งภาคการท่องเที่ยว กรุงเทพ 3 ปีจากนี้จะเปลี่ยนไป จะมีรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ 13 สายสะดวกในการเดินทาง มีคลองที่สวยงาม อีอีซีมีความชัดเจนมากขึ้น การก่อสร้างต่าง ๆ เริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า ทั้งท่าเรือ รถไฟ สนามบิน

"เศรษฐกิจปีหน้าเป็นปีแห่งการปฏิรูป เปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรม เปลี่ยนการส่งออกให้เป็นสินค้าอื่นๆ ที่ดี ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเดิม สิ่งเดิมๆ แต่ทำสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น สิ่งที่คนให้ความสนใจ ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการปฏิบัติการเชิงรุก กรุงเทพจะเป็นศูนย์ของสำนักงานภูมิภาคที่จะมาตั้งในไทย เพื่อดึงดูดนักลงทุน ศูนย์กลางนวัตกรรม เปิดโอกาสให้ผู้ที่เก่งและชำนาญเข้ามาสร้างความเจริญ โดยการดึงดูดคนเก่งด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ ดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ ๆ" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว