posttoday

‘บีโอไอ’ปรับทัพครั้งใหญ่ รับยุคดิจิทัลเร่งส่งเสริมลงทุนใหม่

29 กันยายน 2563

‘บีโอไอ’ อาศัยช่วงโควิด-19 ลุยปรับโครงสร้างองค์กร จัดบุคลากรเร่งอนุมัติโครงการให้เร็วขึ้น พร้อมปรับกองส่งเสริมลงทุน ตั้งทีมยกระดับการให้คำปรึกษานักลงทุนอย่างแบบครบวงจร

น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ ) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้เป็นต้นไป บีโอไอได้เริ่มใช้โครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการกับนักลงทุน สอดคล้องกับภารกิจที่รัฐบาลมอบหมายในการเร่งส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนให้สอดรับกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ได้จัดโครงสร้างกองส่งเสริมการลงทุนใหม่ เหลือ 4 กองจากเดิมมี 5  กอง ดังนี้ กองส่งเสริมการลงทุน 1 รับผิดชอบด้านอุตสาหกรรมเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ และการแพทย์ เช่น เกษตรและแปรรูปอาหาร การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ

กองส่งเสริมการลงทุน 2 รับผิดชอบด้านอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เครื่องจักรกล  ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์   กองส่งเสริมการลงทุน 3 รับผิดชอบด้านอุตสาหกรรมพื้นฐาน และอุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น   แร่ โลหะ และวัสดุ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ พลังงาน สาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรม

กองส่งเสริมการลงทุน 4 รับผิดชอบอุตสาหกรรมดิจิทัล สร้างสรรค์ และบริการที่มีมูลค่าสูง เช่น ดิจิทัล เมืองอัจฉริยะ โลจิสติกส์ การบริการเฉพาะทาง การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมบริการอื่นๆ

นอกจากนี้ได้เพิ่มกองติดตามและประเมินผลการลงทุนอีก 2 กอง เพื่อทำหน้าที่ติดตาม การดำเนินงานของโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ที่จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม เช่น การใช้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี เป็นต้น  ซึ่งกำหนดไว้ต้องมีการประเมินโครงการทุกๆ2 ปี  

ขณะเดียวกันได้รวมกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุนกับกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ เป็น “กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย” เพื่อดูแลพัฒนาผู้ประกอบการไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ งานส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนไทยในต่างประเทศ การกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาผู้ประกอบการไทย การสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงการลงทุน การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการไทย การสนับสนุนให้เกิดการใช้ชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบในประเทศ ครอบคลุมทั้งกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับการลงทุนในประเทศไทยและการลงทุนไทยในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามในช่วงสถานการณ์โควิด-19  บีโอไอได้เปิดให้บริการผ่านระบบออนไลน์ อาทิ e-Submission ซึ่งเป็นระบบการส่งจดหมาย และเอกสารผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงมีบริการ e-Service ที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของบีโอไอ ผ่านเว็บไซต์ www.boi.go.th และเร็วๆนี้บีโอไอจะเปิดตัวหน่วย CSU (Customer Service Unit) เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่นักลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มบุคลากรรองรับการติดต่อของนักลงทุนผ่านระบบโทรศัพท์ มีระบบการนัดหมายออนไลน์ และการให้บริการรับส่งเอกสารเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสำนักงานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น