"มัดแมน" เผยแชร์สนั่น "น.ส.อุบลพรรณ" โอบองแปง เกิดจากไอเดียมสดทีมตลาดรุ่นใหม่

จากปรากฎการณ์ไวรัล มาร์เก็ตติง ธุรกิจร้านอาหารเบเกอรีและเครื่องดื่มแบรนด์ "โอบองแปง" ในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากเพจเฟซบุ๊ก Au Bon Pain (Thailand) เปลี่ยนรูปโปร์ไฟล์เป็นคำว่า “อุบลพรรณ by Au Bon Pain” พร้อมกับข้อความว่า “สวัสดี เรา น.ส.อุบลพรรณ เรียกสั้นๆ ว่า เฌอแปง สวยล่ะสิ” ส่งผลให้มีการแชร์ต่อและเกิดคำถามจากลูกค้าและชาวเน็ต ว่าเป็นการเปลี่ยนแบรนด์ใหม่หรือไม่ ซึ่งภายหลังแอดมินเพจ Au Bon Pain (Thailand) ได้ตอบกลับมาว่า “เรายังคงเป็น โอ บอง แปง เหมือนเดิมนะคะ อันนี้เป็นแคมเปญออนไลน์เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้แบรนด์เท่านั้นค่ะ” และ ในวันเดียวกันนั้นเองที่ แบรนด์ไอสครีม บางกิ้นรอบบิ้น ก็ได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ เป็นบักขิ่น ตามมาด้วยเช่นกัน

นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี กรรมการ และ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทมัดแมน จำกัด (มหาชน) หรือ MM ผู้บริหารธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่ม แบรนด์ ดังกิ้น โดนัท (Dunkin' Donuts) โอบองแปง ( Au Bon Pain) และ บาสกิ้น รอบบิ้น (Baskin Robbins) และ ธุรกิจร้านอาหารเครื่องดื่มแบรนด์ตัวเอง อาทิ เกรย์ฮาวน์ คาเฟ่ (Greyhound Cafe), อนาเธอร์ฮาวด์ คาเฟ่( Another-hound Cafe) ครัว M และ Le Grand Vefour เป็นต้น เปิดเผยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับทั้งสองแบรนด์ร้านอาหารไอศครีมดังกล่าว เป็น Awarness Branding กระตุ้นการจดจำให้ลูกค้ายังไม่ลืมทั้งสองธุรกิจแบรนด์ร้านอาหารในเครือบริษัท ซึ่งเป็นความคิดของทีมการตลาดคนรุ่นใหม่ของบริษัท ที่หยิบชื่อแบรนด์โอบองแปง ที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นชื่ออุบลพรรณ มาสื่อสารการตลาดใหม่กับผู้บริโภค ช่วงระยะสั้น

"หลังจากนี้ ทีมการตลาดธุรกิจทั้งสองแบรนด์ จะเตรียมทยอยทำแคมเปญออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยที่มาของแคมเปญการตลาดทั้งสองผลิตภัณฑ์ด้วย หลังจากได้ผลตอบรับไปในทิศทางบวกจากกลุ่มผู้บริโภคในสื่อสังคมออนไลน์" นายนาดิม กล่าว

สำหรับแนวทางการทำตลาดดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของทิศทางการบริหารธุรกิจของบริษัทมัดแมน ที่จากนี้ไปต้องการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารของแต่ละบริษัทในกลุ่มมัดแมน มีความอิสระในการทำงาน พร้อมเปิดรับความคิดสดใหม่ ที่มาจากพนักงานคนรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นคนยุคมิลเลนเนียล ที่เชื่อว่าจะสามารถสื่อสารการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคซึ่งเป็นคนรุ่นเดียวกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากที่ตนเอง ถอยออกมาในฐานะกรรมการบริหารและเป็นที่ปรึกษาบริษัทแล้ว พบว่าผู้บริหารชุดปัจจุบันสามารถดูแลภาพรวมบริษัทได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน ร้านโอบองแปง ในไทย มีสาขาในศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาล ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 60 สาขา ขณะที่ ร้านไอศครีม บาสกิ้น รอบบิ้นส์ มีจำนวน 34 แห่งในไทย โดยสาขาส่วนใหญ่เปิดให้บริการในกรุงเทพฯ

นักวิชาการตลาด มองกิมมิคสุดปังเตือนผู้บริโภคจำแม่น

ดร.เอกก์ ภทรธนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาด้าน ดิจิทัล มาร์เก็ตติง องค์กร กล่าวว่ากระแสการแชร์ต่อแบรนด์ร้านอาหารโอบองแปง จากการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ ในชื่อ "น.ส.อุบลพรรณ" ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ถือเป็น "กิมมิค" ลูกเล่นในการทำตลาดดิจิทัล จากการเล่นกับคำเรียกชื่อร้านโอบองแปง ว่า "อุบลพรรณ" ที่สร้างผลกระทบในการสื่อสารการตลาดกับผู้บริโภคให้พูดถึงและแชร์ต่อในวงกว้างได้ช่วงข้ามคืน จากความที่เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ ทำให้มีช่องว่างในการทำตลาด ได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แนวทางการทำตลาดทั้งสองแบรนด์ดังกล่าวอาจไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียวนัก ด้วยก่อนหน้านี้มีแฟรนไชส์ร้านอาหารอย่างแบรนด์เบเกอร์คิง (Burger King) เองก็เคยใช้กิมมิคการตลาดลักษณะคล้ายกันมาก่อน จากการใช้ตำว่า ฟรายด์ คิง (Fried King) เพื่อสร้างการจดจำให้กลุ่มผู้บริโภคนึกถึงเมนูเฟรนช์ฟรายส์ ของเบเกอร์คิง

"ปัจจุบัน การใช้สื่อเพื่อสื่อสารการตลาดกับผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และ ใช้ต้นทุนที่ลดลง อย่างแคมเปญแบรนด์โอบองแปงที่เลือกเปลี่ยนโปรไฟล์เพจเฟซบุ๊ค ก็สามารถสร้างอิมแพ็คกับผู้บริโภคในวงกว้างได้แล้ว ต่างจากในอดีตหากธุรกิจต้องการทำแคมเปญลักษณะนี้อาจต้องเลือกใช้สื่อแบบดั้งเดิม(ทราดิชันนัล มีเดีย) ในการทำตลาด ที่อาจต้องใช้งบประมาณที่สูงกว่า" ดร.เอกก์ กล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างสีสันการทำตลาดเพื่อสร้างการจดจำช่วงสั้นให้กับผู้บริโภค

จากมุมคิดเจ้าของแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารและนักวิชาการดิจิทัล มาร์เก็ตติง ที่มองว่า "หากไม่สามารถต้านกระแสผู้บริโภคได้แล้วก็จงเข้าร่วมเสียเถิด น่าจะเป็นการ Remind ให้คนจดจำแบรนด์ได้ในเวลานี้   

โดย ดวงใจ จิตต์มงคล