posttoday

ปตท.โชว์กำไรไตรมาส 2 เริ่มฟื้น พร้อมลุยฝ่าวิกฤตสร้างความมั่นคงพลังงาน

11 สิงหาคม 2563

ปตท.กางตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2 กำไร 2.1 หมื่นล้าน พุ่ง 67.4% ปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน แต่ภาพรวม 6 เดือนแรกพิษโควิด-สงครามน้ำมัน ฉุดมีกำไรสุทธิ ลดลงไป 81%

นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์   ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยถึง ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2563 ปตท. และบริษัทในเครือมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 54,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21,823 ล้านบาท หรือร้อยละ 67.4 จากไตรมาสแรก ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น

ตลอดจนเป็นผลมาจากการวางแผนการดำเนินการทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งมีค่าเสื่อมราคาและภาษีเงินได้ลดลงส่งผลให้มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2563 จำนวน 12,053 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,607 ล้านบาท หรือมากกว่าร้อยละ 100 จากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 1,554 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2563 กลุ่มปตท. มี EBITDA จำนวน 86,593 ล้านบาท ลดลง 67,734 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 43.9 จากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เนื่องจากสงครามราคาน้ำมัน และอุปทานล้นตลาดของน้ำมันดิบ ขณะที่ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีลดลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19  ส่งผลให้ มีกำไรสุทธิในครึ่งแรกของปี 10,499 ล้านบาท ลดลง 44,751  ล้านบาท หรือร้อยละ 81.0

นายอรรคพล กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมัน ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลอดช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ยังคงไว้ซึ่งภารกิจหลักด้านความมั่นคงทางพลังงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับประเทศ  โดยได้ประเมินผลกระทบและติดตามสถานการณ์ พร้อมวางแผนการดำเนินการทั้งระยะสั้นและระยะยาว ผ่านศูนย์ PTT Group Vital Center ด้วยแนวคิด 4 R’s เริ่มจาก1. Resilience สร้างความยืดหยุ่นพร้อมดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

2.Restart เตรียมความพร้อมในการนำธุรกิจ พนักงาน ลูกค้าและคู่ค้า กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุดและรักษาความสามารถทางการแข่งขัน  3. Re-imagination เตรียมออกแบบธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดเป็น Next normal

และ  4.Reform พิจารณาปรับเปลี่ยนโดยจัดโครงสร้างองค์กรหรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ ให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคต พร้อมรองรับทุกสถานการณ์ที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น