รมว.ดิจิทัลฯ แจง ควบรวม ทีโอที-กสท ช่วยลดการลงทุนซ้ำซ้อน

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการควบรวมกิจการ กสท และ ทีโอที เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรมในขั้นตอนต่าง ๆ ชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ โดยให้ความสำคัญกับการให้บริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่มาร่วมกันให้บริการแก่ประชาชนและลดการลงทุนซ้ำซ้อน ส่งผลดีกับประชาชนและประเทศทั้งนี้ สองหน่วยงานได้จัดทำโครงการนำร่องให้บริการอินเทอร์เน็ตร่วมกันใน 2 รูปแบบ ได้แก่ โซลูชันอินเทอร์เน็ตประสิทธิภาพสูงสำหรับธุรกิจ และบริการอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าทั่วไป โดยเริ่มให้บริการพร้อมกันตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563

สำหรับการให้บริการโซลูชันอินเทอร์เน็ตประสิทธิภาพสูงสำหรับธุรกิจ ทั้งสองหน่วยงานให้บริการนำร่องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จ.ระยอง และในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะเป็นผู้ให้บริการเชื่อมโยงโครงข่ายอินเทอร์เน็ตอันดับ 1 ของประเทศด้วยการรับประกันคุณภาพการให้บริการ ‘การันตีไม่มีล่ม’ ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจะสร้างความแข็งแรงของเครือข่ายอย่างเต็มที่ด้วยการเพิ่มเส้นทางสำรอง (Dual Homing) และเพิ่มทางออกเกตเวย์ (Duplex Gateway) เพื่อให้รองรับแบนด์วิดท์ในการเชื่อมต่อออกต่างประเทศสูงสุด 100% พร้อมมีแพ็กแกจให้เลือกรูปแบบการเชื่อมต่อและระดับความเร็วที่เหมาะสมแก่การใช้งาน

ด้าน พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เปิดเผยว่า การควบรวมของสองหน่วยงาน เน้นประโยชน์ของประเทศชาติสนับสนุนการให้บริการด้านโทรคมนาคมและดิจิทัลร่วมกันให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาดิจิทัลโซลูชันที่หลากหลาย รองรับไลฟ์สไตล์วิถึใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีบนโลกออนไลน์ทั้งในภาคธุรกิจและภาคประชาชน

ขณะที่ นายมรกต เธียรมนตรี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT กล่าวว่า เมื่อควบรวมทั้งสององค์กรแล้ว NT จะเป็นกลไกของรัฐที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศและประชาชนสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเข็มแข็ง ตอบสนองความต้องการใช้บริการสื่อสารโทรคมนาคมในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้คนไทยสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่หรือ New Normal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ