ยัสปาลร่วมบรรเทาสถานการณ์โควิด-19 ผลิตหน้ากากผ้าคุณภาพสูงส่งมอบให้ประชาชน พร้อมดูแลพันธมิตรทางธุรกิจและพนักงานในเครือ

ยัสปาลเล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขสถานการณ์และร่วมข้ามผ่านวิกฤต

นายเกียรติศักดิ์ สิงห์สัจจเทศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัสปาล แอนด์ ซันส์ จำกัด บริษัทผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ด้านการนอน อาทิ ที่นอน ชุดเครื่องนอน และเฟอร์นิเจอร์แบรนด์นำเข้า จำนวน 6 แบรนด์ชั้นนำ กล่าวว่า บริษัทฯ มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงแรกของการระบาดที่หน้ากากอนามัยมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในขณะนั้น เพราะหน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยป้องกันตัวเองและลดการแพร่ระบาดได้

นายเกียรติศักดิ์เชื่อว่า ยัสปาลเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมสิ่งทอที่มีความพร้อมทั้งด้านหน่วยการผลิตที่มีคุณภาพและพนักงานทักษะสูง ทางบริษัทฯ จึงตัดสินใจผลิตหน้ากากอนามัย 400,000 ชิ้น มีต้นทุนการผลิต 6 ล้านบาท โดยทุกชิ้นเป็นหน้ากากผ้าคุณภาพสูง สามารถป้องกันน้ำและแบคทีเรียได้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับสถานการณ์ระบาดของโรค

ยัสปาลส่งมอบหน้ากากอนามัยให้เจ้าหน้าที่รัฐฯ และประชาชน

บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของหน้ากากอนามัยที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันไวรัสให้กับผู้สวมใส่ จึงได้ตัดสินใจมอบหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา นายเกียรติศักดิ์ได้เข้ามอบหน้ากากอนามัย 6,000 ชิ้นให้กับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในรัฐสภา

นอกจากนี้ วันที่ 25 มีนาคม นายเกียรติศักดิ์ได้เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อบริจาคหน้ากากอนามัยอีก 200,000 ชิ้น สำหรับการแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไป

ยัสปาลส่งต่อความห่วงใยถึงพันธมิตรทางธุรกิจ

พันธมิตรทางธุรกิจและพนักงานขายถือเป็นหัวใจหลักส่วนหนึ่งในการประกอบธุรกิจของยัสปาล โดยเฉพาะพนักงานที่ต้องต้อนรับและบริการลูกค้าในช่วงการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ทำการส่งมอบหน้ากากอนามัยให้กับคู่ค้าในเครือข่ายทางธุรกิจเพื่อนำไปใช้ภายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป โฮมโปร เทสโก้โลตัส บิ๊กซี อินเดกซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เอสบีดีไซน์          สแควร์ ชิครีพับลิก เมกาโฮม และดูโฮม โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทฯ ดังกล่าวรับมอบหน้ากากอนามัยเพื่อนำไปส่งต่อให้กับพนักงานในเครือ

นอกจากนี้ หน้ากากอนามัยที่ยัสปาลผลิต ถูกส่งมอบให้กับบริษัทในเครือของแบรนด์ที่นอนซีลี่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นบริษัทคู่ค้าทางธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ บริษัทซีลี่ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง และจีน

ยัสปาลดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัว

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยแผนกบริหารงานบุคคลได้เน้นย้ำความระมัดระวังในการปฏิบัติงานของพนักงาน และได้ออกกฎและแนวทางต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบายภายในสำนักงาน เช่น พนักงานและผู้เข้าเยี่ยมทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทฯ ปัจจุบัน การล้างมือและการเว้นระยะห่างทางสังคมได้กลายเป็นแนวปฏิบัติที่สำคัญของพนักงานทุกคนในบริษัทฯ

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ดำเนินนโยบายการเข้างานแบบสับเปลี่ยนในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อลดความเสี่ยงให้กับพนักงานและส่งเสริมนโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยแต่ละแผนกจะแบ่งพนักงานเป็นสองกลุ่มและสลับกันเข้ามาทำงานในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้พนักงานทุกคนยังสามารถปฏิบัติภารกิจต่างๆ ได้อย่างไม่ติดขัดและปลอดภัย ทั้งยังสามารถดูแลและให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการรับคำสั่งซื้อ การจัดส่ง การส่งเสริมการขาย และการให้บริการด้านอื่นๆ บริษัทฯ ได้ติดตามและปฏิบัติตามแนวทางและข้อกำหนดด้านการทำงานจากรัฐบาลอย่างใกล้ชิด และได้เริ่มให้พนักงานกลับเข้าสู่การทำงานในภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยึดถือความปลอดภัยของพนักงานเป็นหลักสำคัญที่สุด

การบริหารความปลอดภัยในการจัดส่งสินค้า

นอกจากการบริจาคหน้ากากอนามัยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน พันธมิตรทางธุรกิจ และพนักงานแล้ว ยัสปาล แอนด์ ซันส์ ยังได้มีการออกมาตราการเพื่อดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานส่งของกว่า 135 ชีวิตอีกด้วย

โดยก่อนการให้บริการ พนักงานขนส่งจะต้องตรวจอุณหภูมิร่างกายทุกวันก่อนและหลังจากดำเนินการขนส่ง รถตู้ขนส่งและอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่งจะได้รับการทำความสะอาดโดยน้ำยาแอลกฮอล์ทุกชิ้น ก่อนเข้าปฏิบัติงานติดตั้งสินค้า พนักงานจะต้องล้างมือด้วยแอลกฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย สวมหน้ากากป้องกันบริเวณใบหน้า (Face Shield) และเว้นระยะห่าง 1.5-2 เมตร ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ยังขอความร่วมมือให้ลูกค้าสวมใส่หน้ากากอนามัยระหว่างรับการบริการเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายอีกด้วย

จากทักษะ ความเชี่ยวชาญของยัสปาล เป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาในช่วงวิกฤต

บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นกว่า 72 ปีและได้สั่งสมประสบการณ์ในอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นระยะเวลานาน จนกลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเกี่ยวกับการนอน ผ้าปูที่นอน ผลิตภัณฑ์บรรจุใย ผ้าขนหนู ที่นอน รวมถึงฐานการผลิตวัตถุดิบด้านการนอนอย่างครบวงจร

ดังนั้น ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นระหว่างการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน บริษัทฯ จึงได้นำประสบการณ์และความชำนาญเกี่ยวกับผ้ามาใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย โดยหน้ากากผ้าคุณภาพสูงของยัสปาลสามารถปกป้องสุขภาพของผู้สวมใส่ โดยผลิตจากผ้าประกบกันสองชั้น โดยชั้นนอกใช้ผ้าโพลีเอสเตอร์เคลือบสารกันน้ำ ส่วนชั้นในทำจากผ้าฝ้ายแท้ 100% และมีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย โดยเทคโนโลยีจากไมโครแบน หน้ากากอนามัยบรรจุลงในห่อพีวีซีซองพลาสติกใส ห่อละสองชิ้น มีที่คาดหูแบบยืดหยุ่น และสามารถนำไปซักทำความสะอาดเพื่อใช้ซ้ำได้

ยัสปาลโยกกำลังการผลิตเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะ

บริษัทฯ ได้เร่งดำเนินการการผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยมีพนักงานช่างจักรเย็บผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คนร่วมปฏิบัตภารกิจในครั้งนี้ ใช้เวลากว่า 45 วัน ที่สำคัญคือหน้ากากอนามัยของยัสปาลทุกชิ้นถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบการตอบแทนสังคมอย่างแท้จริง ริเริ่มโดยกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง เน้นคุณภาพดีเยี่ยม และไม่มีโลโก้หรือคำโฆษณาใดๆ ปรากฎบนหน้ากากและห่อบรรจุภัณฑ์

นายเกียรติศักดิ์กล่าวว่า “เครือยัสปาลยึดถือพันธกิจด้านความรับผิดชอบและการตอบแทนสังคมเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิบัติงาน สำหรับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ บริษัทฯ ก็พยายามรักษาสมดุลและความเหมาะสมระหว่างปัจจัยด้านสุขภาพความปลอดภัยและปัจจัยด้านเศรษฐกิจควบคู่กัน”

“บริษัทฯ เน้นย้ำด้านแนวทางปฏิบัติเพื่อมุ่งหวังความปลอดภัยสูงและได้มีการเตรียมแผนความพร้อมในอนาคตไว้เสมอ ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่ละทิ้งการดูแลพนักงานของเราด้วย ยัสปาลเป็นธุรกิจครอบครัวและเราทำงานกันเป็นเหมือนครอบครัวจริงๆ พนักงานส่วนมากอยู่กับเรามามากกว่าสิบปี และทุกคนทุ่มเทและต่อสู้ โดยเราได้ผ่านกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาด้วยกัน”

สำหรับความท้าทายในครั้งนี้ ดูเหมือนว่ายัสปาลจะสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี โดยมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและรัดกุมรอบคอบเพื่อดูแลพนักงาน พร้อมทั้งยังคงให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น

นายเกียรติศักดิ์ทิ้งท้ายว่า “ที่ยัสปาล เราให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมเสมอ และบริษัทฯ เชื่อว่าการช่วยเหลือที่ดีที่สุดที่เราสามารถจะมอบให้กับสังคมได้ ณ เวลานี้ คือการใช้ทักษะและความสามารถที่เราสั่งสมมาในอุตสาหกรรมสิ่งทอ มาผลิตหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพเพื่อให้ชาวไทยสามารถดำเนินชีวิตต่อไปในช่วงวิกฤตนี้ได้อย่างปลอดภัย”