ชงครม.เคาะหมื่นล้านเยียวยาชาวไร่อ้อย 2 แสนราย รับเงินมิ.ย.นี้
“สุริยะ” เดินหน้ามาตรการช่วยเหลือชาวไร่อ้อย วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท บรรเทาความเดือดร้อน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ด้านสอน.เร่งตรวจสอบสิทธิ์ ใครตกหล่นเปิดยื่นอุทธรณ์
นายสุริยะ จึ งรุ่งเรืองกิจ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 9 มิ.ย.นี้จะเสนอโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิตฤดูการผลิตปี 2562/2563 วงเงิน จำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อพิจารณา
ทั้งนี้จะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่มีอยู่ในระบบกว่า 2 แสนราย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยหลังได้รับผลกระทบโควิด-19 อีกด้วย
สำหรับวงเงินช่วยเหลือดังกล่าว แบ่งเป็น 1.วงเงิน 6,500 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยเข้าโรงงานทุกราย ที่ได้จดทะเบียนถูกต้องตามพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 และได้ทำสัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลก่อนเปิดหีบอ้อย ในอัตราตันละไม่เกิน 85 บาท รายละไม่เกิน 5,000 ตัน
2.วงเงิน 3,500 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเข้าโรงงานทุกตันอ้อย ในอัตราตันละไม่เกิน 92 บาท โดยมีปริมาณอ้อยสดที่เข้าหีบในฤดูการผลิต 2562/2563 ทั้งหมด 37.71 ล้านตัน จากปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น 74.89 ล้านตัน
ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรชาวไร่อ้อยคู่สัญญาที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือตามโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิตฤดูการผลิตปี 2562/2563 ไปแล้ว จำนวน 182,598 ราย คิดเป็นร้อยละ 95 ของจำนวนเกษตรกรโดยคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้
นายสุริยะ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นตามนโยบายในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ทางสอน.ได้จัดทำระบบการตรวจสอบสิทธิ์อ้อยผ่าน Line Official ในชื่อ “ตรวจสิทธิ์อ้อย” เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ตรวจสอบปริมาณอ้อยที่ตนได้รับสิทธิตามโครงการเงินช่วยเหลือฯ ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้มีเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการแล้วกว่า 32,000 ราย จึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตรวจสอบและยืนยันสิทธิ์ของตนได้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2563 และสามารถยื่นเรื่องอุทธรณ์กรณีข้อมูลไม่ถูกต้อง ภายในวันที่ 19 มิ.ย. 2563


