มูลนิธิเอสซีจี เปิดตัวนวัตกรรมห้องตรวจผู้เสี่ยงติดโควิด-19 แห่งที่ 2 และระบบ Tele-Monitoring ปลอดภัย ตรวจคนไข้ได้เร็วขึ้น ณ รพ.รามาธิบดี
เพื่อเป็นการลดโอกาสติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มูลนิธิเอสซีจีได้ร่วมพัฒนาและส่งมอบนวัตกรรม ห้องตรวจผู้ที่มีความเสี่ยง (Modular Swab Unit) แห่งที่ 2 พร้อมระบบ Tele-Monitoring มูลค่ารวม 2.5 ล้านบาท
ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี ช่วยร่นระยะเวลาและเพิ่มจำนวนคนเข้ารับการตรวจในแต่ละรอบ ลดโอกาสการติดเชื้อทั้งของบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ ด้วยการออกแบบแยกพื้นที่ทีมแพทย์-คนไข้ออกจากกัน พร้อมระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม
โดยห้องตรวจผู้ที่มีความเสี่ยง (Modular Swab Unit) เป็นส่วนหนึ่งของห้องตรวจและคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง (Modular Screening & Swab Unit) ที่เอสซีจีได้ออกแบบและจัดทำขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่เสริมสำหรับโรงพยาบาล ด้วยนวัตกรรม Modular System ของ SCG HEIM จึงช่วยร่นระยะเวลาในการก่อสร้าง และใช้เวลาติดตั้งที่หน้างาน ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพียง 1 วันครึ่งเท่านั้น ทั้งยังสามารถรองรับการใช้งานของทีมแพทย์ได้ถึงคราวละ 5 คน และคนไข้อีก 5 คน สามารถเชื่อมต่อกับระบบคัดกรองที่ทางโรงพยาบาลมีอยู่แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถดำเนินการตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ภายในห้องตรวจจะควบคุมด้วยระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ช่วยป้องกันฝุ่น เสียง และอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี และระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) โดย Living Solution ของเอสซีจี ซึ่งมีระบบควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศที่สะอาด ปลอดภัย ช่วยให้อากาศภายในห้องตรวจสะอาด ลดโอกาสการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้
ภายใน Modular Swab Unit มีการจัดวางเป็นสัดส่วน พร้อมด้วยระบบควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศ ที่ช่วยให้อากาศสะอาด ลดโอกาสติดเชื้อ และป้องกันอากาศรั่วไหลอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ห้องตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงยังได้ออกแบบให้แยกคนไข้และทีมแพทย์ออกจากกันเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสฟุ้งกระจาย โดยทีมแพทย์จะดำเนินการเก็บตัวอย่าง (Swab) ด้วยการสอดมือผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่องและมีถุงมือติดไว้ ซึ่งนอกจากจะมีการใช้แสงยูวีเข้มข้นสูงในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ (UV Germicide) ที่ถุงมือและภายในห้องหลังการใช้งานทุกครั้งแล้ว ยังมีถุงมือพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งที่เปลี่ยนสำหรับผู้เข้ารับการตรวจแต่ละคนครอบด้านนอกอีกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้ทั้งแพทย์และผู้เข้ารับการตรวจ โดยห้องปฏิบัติการทั้งหมดยังจะถูกแยกเป็นส่วนย่อยๆ เพื่อแยกปิดได้ในกรณีฉุกเฉินที่เกิดการรั่วระหว่างห้องบุคลากรทางการแพทย์กับห้องผู้เข้ารับการตรวจอีกด้วย
บุคลากรการแพทย์เก็บตัวอย่างเชื้อคนไข้ในห้อง Modular Swab Unit ที่มีความปลอดภัย ป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อ
มีถุงมือใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งสวมทับเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ยังมีโรงพยาบาลทั่วประเทศอีกจำนวนมากที่ต้องการห้องคัดกรองและตรวจผู้ที่มีความเสี่ยง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จึงมีแนวคิดที่จะช่วยเปิดรับบริจาคเงินเพื่อจัดหาห้องคัดกรองและตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงส่งมอบให้โรงพยาบาลที่มีความจำเป็น โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ โทร. 0-2586-2888