SAM ไม่เสี่ยงโควิด ตอบรับมาตรการ Physical Distancing

วันนี้คงไม่มีใครไม่พูดถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มลุกลามและยอดผู้ป่วยทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น ภาครัฐจึงต้องเร่งออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดมากมายด้วยการปิดพื้นที่เสี่ยงทั่วเมืองพร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานและประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” หลายๆ หน่วยงานตอบรับนโยบายนี้อย่างทันท่วงที รวมทั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM โดยผู้บริหารระดับสูง นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ ให้ความเห็นว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ SAM ตระหนักถึงความปลอดภัยของทุกคนเป็นสำคัญ จึงพร้อมให้ความร่วมมือในการตอบรับมาตรการอย่างทันท่วงทีด้วยการให้พนักงาน Work From Home และการรักษาระยะห่างทางร่างกาย (Physical Distancing) เพื่อหยุดและลดจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ด้วยภารกิจใหญ่ของ SAM ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเครื่องมือของภาครัฐที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียของประเทศ สิ่งที่ SAM ละเลยและหยุดไม่ได้คือการดูแลช่วยเหลือด้วยการพูดคุยและให้คำปรึกษาคนที่เป็นหนี้อยู่แล้วหรือกำลังได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากพิษไวรัสโควิด 19 อีกจำนวนหลายหมื่นราย ทั้งลูกค้า NPL ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ SAM เองและลูกค้าโครงการคลินิกแก้หนี้ ที่ SAM ได้รับมอบหมายจากแบงก์ชาติ ให้ช่วยแก้ปัญหาให้คนเป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันกับธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) ที่เข้าร่วมโครงการมากถึง 35 แห่ง เรียกได้ว่าคลินิกแก้หนี้เป็นเครือข่ายแก้หนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

พูดถึง คลินิกแก้หนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการระดับชาติเพื่อช่วยเหลือคนที่เป็นหนี้สารพัดบัตร ซึ่งถ้าจำกันได้ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา แบงก์ชาติขยับเกณฑ์การช่วยคนเป็นหนี้เสียประเภทนี้ที่อยู่ในกระบวนการของศาลและมีคำพิพากษาแล้วให้เข้าร่วมโครงการได้ รวมทั้งขยายระยะเวลาการเป็นหนี้เสียจากเดิมก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 ตรงนี้หมายความว่า ลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ต้องไม่ใช่คนที่จ่ายขั้นต่ำ แต่ต้องเป็นคนที่ไม่ได้จ่ายชำระหนี้เลยตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายนปีก่อน ซึ่งไม่แปลกที่มีผู้คนที่กำลังเดือดร้อนสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการมากมาย จากวันนั้นผ่านมาไม่ถึง 2 เดือน วันนี้คลินิกแก้หนี้ต้องออกโรงมาอีกรอบพร้อมอัดยาแรงพิเศษ 2 สูตรช่วยลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19

สูตรหนึ่ง การเลื่อนชำระค่างวดออกไปยาว 6 เดือน ตรงนี้หมายความว่า ลูกค้าไม่ต้องจ่ายทั้งต้นและดอกในช่วงนี้ แถมประวัติก็ไม่เสีย 

สูตรสอง การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม 2%  สำหรับผู้ที่ยังผ่อนชำระอย่างต่อเนื่อง พูดให้ชัดๆ ก็คือลูกค้าเก่าที่เข้าอยู่ในโครงการคลินิกแก้หนี้ ที่เดิมจ่ายดอกเบี้ยที่ 4-7%  วันนี้รับดอกเบี้ยพิเศษไปเต็มๆ เพราะมาตรการนี้ดอกเบี้ยจะลดลงเหลือ 2-5% เท่านั้น    

ยาแรงยาดีที่ว่ามาข้างต้นยังไม่หมด เพราะคลินิกแก้หนี้ ใจดีมีแถม ให้ลูกค้าใหม่ที่สมัครและผ่านเกณฑ์เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ภายใน 6 เดือนนับจากวันนี้ พูดง่ายๆ คือลูกค้ารายใหม่ที่ได้เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ภายในเดือนกันยายน 2563 ก็จะได้รับสิทธิ์ลดดอกเบี้ย 2% เช่นเดียวกัน ถ้าสงสัยว่าตนเองเป็นหนึ่งในคนที่เข้าเกณฑ์หรือไม่ก็อย่าช้า เพราะว่าวันนี้คนอีกหลายหมื่นกำลังรีบติดต่อสมัครเข้าโครงการแล้ว แม้ “หยุดเดินทาง แต่ไม่เคยหยุดให้บริการ” เพราะด้วยสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยให้พบปะ พูดคุยและเพื่อความปลอดภัยของทุกคน คลินิกแก้หนี้จึงให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียที่หลากหลาย ทั้งการพูดคุย ให้คำปรึกษาลูกค้าที่กำลังเดือดร้อนและได้รับผลกระทบ ด้วยวิธีง่ายๆ กับการสมัครและส่งเอกสารทางออนไลน์ สมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ แค่กรอกข้อมูลใน แบบฟอร์มใบสมัคร แล้วส่งกลับมาทาง ปณ. หรือสมัครออนไลน์ทาง www.คลินิกแก้หนี้.com / www.debtclinicbysam.com  / Line : @debtclinicbysam / Facebook : คลินิกแก้หนี้ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-610-2266  ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น.

สำหรับลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ NPL ของ SAM มีหลากหลายช่องทางให้ลูกค้าพูดคุยปรึกษาได้เช่นกัน ทั้ง Line : @NPLbySAM  / Facebook : SAM บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-686-1800

ส่วนลูกค้าที่ไม่หยุดลงทุนและสนใจทรัพย์มือสอง SAM ยินดีให้บริการสะดวกทุกช่องทางเช่นเคย สามารถดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ที่เว็บไซต์ www.sam.or.th รวมทั้งอีกหลากหลายช่องทางบนออนไลน์ ทั้ง Line : @Samline /  Facebook : สานฝันต่อยอดสินทรัพย์กับ SAM /  SAM NPA Channel  บน YouTube  และ @SAM_NPA บน Twitter

เกี่ยวกับ SAM

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นรัฐวิสาหกิจ ภายใต้กำกับของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ) มีหน้าที่บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ NPL (Non-Performing Loan) และทรัพย์สินรอการขาย NPA (Non-Performing Asset) ตั้งแต่ปี 2543 และรับมอบนโยบายจากแบงก์ชาติ ให้ดำเนินการโครงการคลินิกแก้หนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เป็นหนี้เสียสารพัดบัตร ทั้งบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน

เหตุผลที่คนอยากเข้าโครงการ “คลินิกแก้หนี้”

• ไม่ถูกทวงถามจากเจ้าหนี้หลายราย
• รวมหนี้จากเจ้าหนี้ทุกแห่ง ทำสัญญาแก้หนี้ครบ จบในที่เดียว
• อัตราดอกเบี้ยเพียง 4-7 % (อัตราดอกเบี้ยปกติสูง 18% หรือ 28%) เช่น หนี้ 5 หมื่นบาท และ 1 แสนบาท ยอดผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 600 บาทและ 1,200 บาทเท่านั้น 
• ผ่อนได้ยาวถึง 10 ปี
• ไม่ก่อหนี้เพิ่ม ไม่พึ่งหนี้นอกระบบ
• ได้รับความรู้ทางการเงินและการออม

คุณสมบัติของผู้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการ

• เป็นบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี
• เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ 35 แห่ง
• พิพากษาแล้วก็เข้าโครงการได้
• เป็นหนี้เสีย หรือ NPL ก่อน 1 ม.ค. 63            
• หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท

เอกสารการสมัคร

• สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน
• สลิปเงินเดือน 3-6 เดือน หรือเอกสารแสดงรายได้ย้อนหลัง 6 เดือน
• รายการเดินบัญชีหรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
• ข้อมูลเครดิตบูโร

คลินิกแก้หนี้ใจดีมีแถม!สมัครใหม่ลดดอกให้ 2% หนี้บัตรเสียก่อน 1 ม.ค.63 / ศาลตัดสินแล้ว / เสียบัตรเดียวก็สมัครได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินทางกรอกใบสมัครแล้วส่ง ปณ.

โหลดใบสมัครคลิก https://bit.ly/3dGQQU1 โทร.02-610-2266