จัด 3 ทัพไล่น้ำเค็มป้องน้ำปะปานครหลวง น้ำทะเลปีนี้สูงกว่าปี58 ถึง 20 ซม.

กรมชลประทาน  จัด3 ทัพ ไล่น้ำเค็มป้องระบบประปานครหลวง  เผยน้ำทะเลหนุนสูงกว่าปี 58 ถึง  20 ซม.  จับมือกปน.ยันน้ำประปากินได้

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวภายหลังนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามระบบการบริหารน้ำของกรมชลประทานเพื่อป้องกันความเค็มของน้ำทะเลที่หนุนสูงสุดเข้าระบบประปาในช่วงภัยแล้งที่สถานีวัดน้ำท่าศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ว่า กรมชลประทานได้มีการจัด 3ทัพเพื่อป้องกันน้ำเค็ม

โดยใช้น้ำเหนือ น้ำฝั่งตะวันตก คือ น้ำลุ่มแม่กลอง และการบริหารประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ มาใช้ในการผลักดันน้ำเค็มโดยเฉพาะในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดระหว่าง13-14ม.ค.  2563ที่น้ำทะเลจะหนุนสูงกว่าปี 2558 ในช่วงเวลาเดียวกันประมาณ20เซนติเมตร  ทำให้ระดับน้ำทะเลช่วงดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณบวก   1.70 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล( ม.รทก.) ซึ่งกรมจะต้องปล่อยน้ำมาดันน้ำเค็มในอัตราการไหลประมาณ    130  ลูกบากศก์เมตร(ลบ.ม.) ต่อวินาทีเพื่อดันน้ำเค็มไม่ให้เกินเกณฑ์ผลิตน้ำประปาที่ 0.5 กรัมต่อลิตร  เกณฑ์เฝ้าระวัง  0.25กรัมต่อลิตร

พร้อมกำชับให้ ทางกรมชลประทาน บริหารให้ดีที่สุด  โดยกรมได้ใช้ทัพหลัก คือ น้ำเหนือจากเขื่อนเจ้าพระยา-ชัยนาท  ซึ่งกรมได้มีการกักน้ำไว้เหนือเขื่อนให้อยู่ในระดับบวก  14.1ม. รทก. เพื่อให้น้ำยกตัวและจะปล่อยน้ำที่อัตราการไหล 100ลบ.ม.ต่อวินาทีลงมาในวันที่ 8ม.ค. นี้เพื่อให้น้ำมาถึงที่หน้าสถานีสูบน้ำลำแลของการประปานครหลวง ในช่วงวันที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด14-15 ม.ค.

โดยจะปล่อยมาในอัตรา100  ลบ.ม.ต่อวินาทีและ ผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองที่คลองพระยาบรรลือมาเป็นทัพรอง อีกประมาณ 30  ลบ.ม. ต่อวินาทีผ่านคลองจระเข้สามพัน ที่กรมชลฯได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ  เครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งการระบายที่ปตร.สิงหนาท 2   และในวันที่ 8ม.ค. จะเพิ่มการระบายจากแม่น้ำแม่กลอง มาลงแม่น้ำท่าจีนผ่านปตร. พระพิมล เพื่อช่วยดันน้ำเค็มก่อนถึงสำแล  และในส่วนของทัพเสริม คือ จะใช้การใช้การเปิด-ปิด ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ในการหน่วงน้ำเค็มช่วงนำทะเลหนุนสูงและเปิดปตร.เมื่อน้ำทะเลลงเพื่อเร่งการลงของน้ำทะเล  

"เห็นว่าขณะนี้กรมได้ใช้ระบบบริหารของกรมทั้งหมด เพื่อป้องกันน้ำเค็มเข้าระบบประของการประปานครหลวง   ยืนยันว่ามาตรการนี้จะคุมน้ำเค็มไม่ให้เข้าระบบประปาได้และใช้รูปแบบนี้อีกครั้งในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงปลายเดือนม.ค.ระหว่าง 20-21ม.ค. 63" ดร.ทองเปลวกล่าว

นายปริญญา  ยมะสมิต  ผู้ว่ากปน.กล่าวว่า  ได้หารือกับกรมชลฯตลอดและมีระบบแจ้งเตือนในเรื่องความเค็ม  ซึ่งการประปาผลิตน้ำวันละ  4.5ล้านลบ.ม. ถึง 5 ล้านลบ.ม.ต่อวัน  โดย70% ใช้น้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยา  และในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงจะปิดระบบการสูบ  และก่อนช่วงน้ำทะเลหนุนสูง กปน.จะมีการสูบสำรองไว้อีกประมาณ4 แสนลบ.ม. ซึ่งปริมาณดังกล่าวจะใช้ได้ประมาณ2-3 ชั่วโมง  ทำให้ไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการของกปกน.
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าแผนจัดหาน้ำดิบของกปน.ทำได้ยากเนื่องจากต้องใช้พื้นที่ในการทำอ่างเก็บน้ำเท่ากับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้ไม่มีพื้นที่ ดังนั้นต้องหันมาพัฒนาระบบผันน้ำจากฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์