posttoday

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”

03 ธันวาคม 2562

วันนี้ (2 ธันวาคม 2562) นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

 

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก” แสดงเจตนารมณ์ในการน้อมนำศาสตร์พระราชาฯ มาพัฒนาชุมชน มุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืนโลก

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วน จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”เนื่องในวันดินโลก แสดงพลังแห่งความร่วมมือและแสดงเจตนารมณ์ในการน้อมนำและสืบสานศาสตร์พระราชาฯ เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำ อาหาร และพลังงาน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนโลกต่อไป

วันนี้ (2 ธันวาคม 2562) นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก (Energy Drive Ecosystem)” และร่วมเป็นสักขีพยานในการแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือการสืบสานศาสตร์พระราชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่เป้าหมาย ความยั่งยืนโลก ระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และอีก 5 หน่วยงาน คือ ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ, มูลนิธิรักษ์ดินน้ำ Earth Safe Foundation และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยมีนายวรานนท์ ยิ้มมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และที่ปรึกษามูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. หัวหน้าส่วนราชการ ชุมชนแม่แจ่ม ชุมชนรอบเขื่อน โรงไฟฟ้า จิตอาสา 904 วปร. และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงานกว่า 500 คน ณ เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”

นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า งาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก” นับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานหลายภาคส่วน ทั้งชุมชน หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือในทุกภาคีเครือข่ายต่อไป โดยการน้อมนำศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย ซึ่งกระทรวงพลังงานในฐานะผู้รับผิดชอบด้านการจัดหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการ ได้มีนโนบาย Energy For All เพื่อมุ่งสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาพลังงานในพื้นที่และเป็นเจ้าของพลังงาน โดยบูรณาการแนวคิดเพื่อแก้ปัญหา พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน บริหารจัดการพื้นที่แบบโคก หนอง นา โมเดล เพื่อพัฒนาน้ำ อาหาร และพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์และเป็นการใช้พื้นที่ของชุมชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ด้าน นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”

อย่างต่อเนื่องเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนทุกโครงการของ กฟผ. อาทิ โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โครงการปลูกป่า กฟผ. ได้น้อมนำศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 และน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” พระราชกรณียกิจของพระบรมราชชนก มาเป็นแนวทางในการดำเนินงานให้เกิดการพัฒนาที่สมดุลทั้งด้านคน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

สำหรับการแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือการสืบสานศาสตร์พระราชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่เป้าหมาย

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”

ความยั่งยืนโลก ระหว่าง กฟผ. กระทรวงพลังงานและอีก 5 หน่วยงาน ภายใต้กรอบระยะเวลา 3 ปี เป็นการแสดงถึงความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานหลายภาคส่วนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานที่มุ่งแก้ปัญหาใน 3 ประเด็นหลัก คือ น้ำ อาหาร และพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นคงตามเป้าหมายความยั่งยืนโลก (SDGs) โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน และเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็งต่อไป ทั้งนี้ กฟผ. มีแผนในการน้อมนำศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนมาพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำในบริเวณ “เขื่อน 7 พระนาม 3 โรงไฟฟ้า” ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรก, เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์, เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี, เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี, เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น, เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ, โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง, โรงไฟฟ้าวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”

นอกจากการแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือแล้ว ยังมีการแสดงพลังแห่งความร่วมมือจากทุกภาคีเครือข่ายด้วยกิจกรรมโบกธงแสดงเจตนารมณ์สืบสานศาสตร์พระราชาเนื่องในวันดินโลก ณ บริเวณสันเขื่อนภูมิพล และมีกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “เป้าหมายโลกคือเป้าหมายเราด้วยศาสตร์พระราชา” โดยผู้ทรงคุณวุฒิจาก 4 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และที่ปรึกษามูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน รศ.ดร.สุรินทร์ คำฝอย รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. ซึ่งได้บรรยายถึงความสำคัญพร้อมผลักดันประชาชนให้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาชุมชนสู่เป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก และยังมีการจัดแสดงนิทรรศการและผลงานศาสตร์พระราชาของชุมชน สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมการเกษตร พลังงานเพื่อชุมชน นิทรรศการผลงานวิจัยสิ่งประดิษฐ์ของเยาวชน อีกด้วย

กฟผ. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก”

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีพิธีมอบ “52,000 ฝายถวายพ่อ” ซึ่งดำเนินการโดยชาวแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดย กฟผ. มีส่วนสนับสนุนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรผู้นำการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (นขพ.) ระดับผู้นำท้องถิ่น 7 ตำบล 104 หมู่บ้าน ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ จนเกิดการขับเคลื่อนงานในรูปแบบจิตอาสาภาคประชาชนที่ร่วมมือกันทำงานในพื้นที่และสร้างฝายภูมิปัญญาชาวบ้านได้มากกว่า 52,000 ฝาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูแลและรักษาพื้นที่ต้นน้ำ ป้องกันไม่ให้เกิดตะกอนดินตกลงไปในแหล่งน้ำและเกิดการทับถม จนก่อให้เกิดปัญหาในพื้นที่ปลายน้ำทำให้มีน้ำตื้นเขิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้ประโยชน์ของเขื่อนต่อไป ซึ่งในวันนี้ กฟผ. และบริษัทในกลุ่ม กฟผ. ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมอบเงินสนับสนุนการสร้างฝาย จำนวน 100,000 บาท โดยมีผู้แทนจาก 3 หมู่บ้านในอำเภอแม่แจ่ม เป็นผู้รับมอบ และมอบเงินสนับสนุนโครงการดับหมอกควัน ดับไฟป่า ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จำนวน 300,000 บาท โดยมีนายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ นายอำเภอแม่แจ่ม เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือกิจกรรมของชาวแม่แจ่มต่อไป พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมร่วมพลังเอามื้อสามัคคีสร้างฝาย โดยจิตอาสา 904 วปร. ร่วมกับภาคีเครือข่ายจิตอาสาพัฒนา ร่วมกันสร้างฝายชะลอน้ำ ณ ห้วยแก่ง เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก