'สมคิด'กล่อมภาคเอกชนเศรษฐกิจไทยยังไม่แย่ ห่วงปัจจัยการเมืองฉุดเสถียรภาพรัฐบาล

'สมคิด'ประกาศกลางเวทีสัมนาหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ยันรัฐบาลดูแลเศรษฐกิจไทยเต็มที่ ยอมรับปัจจัยเสี่ยงภายนอกรุมทั้งสงครามการค้า ส่งออกลด แนะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ลุ้นไตรมาส 4 เศรษฐกิจผงกหัว

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ร่วมมือร่วมใจนำประเทศสู่อนาคต” ภายในงานสัมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 37 ที่จังหวัดลำปาง ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่แล้ว แต่มีปัจจัยภายนอกไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอ การส่งออกลดลง เงินบาทแข็งค่า ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเข้าไปดูแล โดยรัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซง เพราะสหรัฐกำลังจับตาประเทศไทยว่ามีการแทรกแซงค่าเงิน และอาจทำให้สหรัฐใช้มาตรการกีดกันทางการค้ากับไทยยิ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ภาคเอกชนต้องร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งปีนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมาแล้วถึง 4 ครั้ง อยู่ที่ 3% ส่วนเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ที่ 2.4% แต่ในอัตราที่ลดลงไม่ได้ย่ำแย่ถึงขั้นติดลบ เพราะการส่งออกได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ทำให้โรงงาน แรงงาน ได้รับผลกระทบจากสายการผลิตหยุด คนตกงาน และว่างงาน 300,000-400,000 คน แต่เมื่อเทียบกับจำนวนแรงงานทั้งประเทศ 37 ล้านคน คิดเป็นเพียง 1 % อัตราการว่างงานต่ำสุดในโลก

อย่างไรก็ตามยังเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้ มีความขัดแย้งสูง สะท้อนจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ล่มมาแล้ว 2 ครั้ง โดยขอให้ทุกฝ่ายมีความสามัคคีก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้า

"รัฐบาลได้เดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้และกำลังซื้อผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการชิมช้อปใช้ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน ส่วนการลงทุนภาครัฐชะลอตัว เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณยังล่าช้าจากการจัดตั้งรัฐบาล กระทรวงการคลังรายงานว่าขณะนี้มีงบประมาณรอเบิกจ่ายกว่าแสนล้าน อยู่ระหว่างการเร่งรัดคาดว่าหากสามารถขับเคลื่อนได้จะช่วยทำให้เกิดการลงทุนมากขึ้น"นายสมคิด กล่าว

ทั้งนี้ต้องการให้ภาคเอกชนใช้โอกาสจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ปรับโครงสร้างการผลิต พัฒนาสู่อุตสาหกรรมใหม่สินค้าใหม่ ๆ สินค้านวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่ามากกว่าการขายสินค้าแบบเดิม ตลาดเดิม เพราะขณะนี้รูปแบบของการค้าโลกเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมสมัยใหม่แล้ว เอกชนต้องพัฒนายกระดับตัวเองมากกว่าเรียกร้องให้ดูแลค่าเงินบาท โดยคาดว่าไตรมาส 4 นี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวได้ หากการท่องเที่ยวเป็นไปตามคาด รายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่าหอการค้าได้ยื่นสมุดขาว สรุปผลการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ และแนวทางแก้ปัญหาเศรษบกิจเสนอพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อใช้เป็นแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวมาจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ และเงินบาทที่แข็งค่าเป็นหลัก ขณะที่การกระจายรายได้ยังไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร