posttoday

หนุนโซฮอล์อี 20 เป็นเบนซินพื้นฐาน ดึงกลไกราคาจูงใจผู้ใช้

17 พฤศจิกายน 2562

'สนธิรัตน์' เดินหน้าส่งเสริมน้ำมันบนดิน จูงใจใช้พืชพลังงานทดแทน ดันแก๊สโซฮอล์อี 20 เทียบเบนซินพื้นฐาน หลัง แผนดีเซลบี10 ไปได้ดี ลุ้นยอดใช้เพิ่มขึ้น 40%

'สนธิรัตน์' เดินหน้าส่งเสริมน้ำมันบนดิน จูงใจใช้พืชพลังงานทดแทน ดันแก๊สโซฮอล์อี 20 เทียบเบนซินพื้นฐาน หลัง แผนดีเซลบี10 ไปได้ดี ลุ้นยอดใช้เพิ่มขึ้น 40%

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานกล่าวปาฐกถาเรื่อง “บี10 น้ำมันบนดิน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก”ภายในงานสัมมนา บี10 ราคาปาล์มจะรุ่ง หรือร่วง ซึ่งจัดขึ้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า กระทรวงพลังงานให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมนโยบายพลังงานเพื่อประชาชนทุกระดับตามนโยบาย Energy For All เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานและสามารถใช้พลังงานในการเพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในระดับภาพรวมและเศรษฐกิจฐานรากที่สามารถพึ่งพาตนเองได้

ทั้งนี้น้ำมันบนดินชนิดต่อไปที่กระทรวงฯจะผลักดันคือ การส่งเสริมเอทานอลที่ผลิตจาก อ้อย มันสำปะหลัง เพื่อผสมในน้ำมันเบนซิน โดยมีแผนยกระดับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐานกลุ่มเบนซิน และมีแผนจะลดจำนวนชนิดน้ำมันแก๊สโซฮอลที่จำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมันลง โดยใช้กลไกส่วนต่างราคาปลีกจูงใจประชาชนหันมาใช้ แก๊สโซฮอล์อี 20 เพิ่มขึ้น

สำหรับการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล(บี100) ผสมในน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น บี10 นั้น ขณะนี้ได้ประกาศให้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 น้ำมันบี10 จะเป็นดีเซลพื้นฐานของประเทศแทน บี7 โดยน้ำมันดีเซลบี 7 เป็นทางเลือกสำหรับรถเก่า และรถยุโรปที่ยังรองรับไม่ได้ และมี บี 20 เป็นทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งหากผลักดันการใช้บี10 สำเร็จจะทำให้การใช้ไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นราว 2.1 ล้านลิตรต่อวัน หรือเพิ่มประมาณ 40%จากปัจจุบัน

ปัจจุบันมีปริมาณการใช้ไบโอดีเซล 5.15 ล้านลิตรต่อวัน ก็จะเพิ่มเป็นประมาณ 7 ล้านลิตรต่อวันในปี 2563 เพื่อสำหรับราคา บี10 ถูกกว่า บี7 ถึง 2 บาทต่อลิตรเพื่อเป็นการจูงใจให้เกิดการใช้เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงฯตั้งเป้าหมายให้สถานีบริการน้ำมันมี บี10 จำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ 1 มี.ค. 2563 ซึ่งปัจจุบันมีสถานีบริการ บี10 ทั่วประเทศแล้ว 120 สถานี เฉพาะที่จ.นครศรีธรรมราช มี 5 สถานี

อย่างไรก็ตามผลจากการผลักดันนโยบายดีเซลบี 10 ช่วยการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มดิบจากการใช้ไบโอดีเซล(บี100)ในภาคพลังงานมากขึ้น โดยดำเนินการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์บริหารจัดการผลผลิตปาล์มน้ำมันเพื่อใช้ผลิตบี100 และเพื่อใช้บริโภค และร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันการลักลอบการนำเข้าปาล์มดิบจากต่างประเทศด้วย อันจะมีส่วนช่วยยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมัน และยังช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ลดการพึ่งพานำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากต่างประเทศ ที่สำคัญลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านมลภาวะทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

“ผมขอให้เชื่อมั่นว่านโยบายของกระทรวงพลังงานจะเป็นเครื่องมือสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทุกระดับ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมสร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา และขอให้มั่นใจว่ากระทรวงพลังงานจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ขับเคลื่อนชีวิตของคนไทยทุกคนในปัจจุบันไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืนตามนโยบาย พลังงานเพื่อทุกคน พลังงานเพื่อชุมชน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก” นายสนธิรัตน์กล่าว