โลว์คอสต์ไหนไม่บิน แต่สายการบินไทยบิน

‘สรรพสามิต’ เมินคำขู่กลุ่มโลว์คอสต์ ขอลดภาษีน้ำมัน ด้าน รมว.คลัง ให้ทบทวนข้อเสนอ ก่อนหาข้อสรุปในสิ้นปีนี้

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพสามิตและรองปลัดกระทรวงการคลัง ไปพิจารณาข้อเสนอของกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ที่ขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน รวมทั้งให้มีการหารือกับผู้ประกอบการ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ครบถ้วนมากที่สุด ส่วนกรณีที่ระบุว่า จะมีสายการบินบางแห่งอาจถึงขั้นปิดกิจการ ก็ขอให้เอาข้อมูลมาดูกัน ขอเวลาให้กรมสรรพสามิตดูก่อน ซึ่งต้องคำนึงหลายปัจจัย ทั้งโครงสร้างภาคขนส่งอื่นๆ ด้วย ก็ต้องพยายามดูให้ครบทุกภาคส่วน และคาดว่าภายในปีนี้จะมีความชัดเจน

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การเสนอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน สำหรับสายการบิน ของผู้ประกบอากร ไม่รู้ว่าคิดบนหลักการอะไร และหากมีการลดภาษี ราคาค่าโดยสารสายการบินจะปรับลดลงด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ และทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายของ รมว.คลัง ด้วย โดยปัจจุบัน กรมสรรพสามิตมีการจัดเก็บภาษีน้ำมันเครื่องบิน หรือ เจ็ตเอ 1 ซึ่งเป็นการเก็บเฉพาะภาษีสรรพสามิต และ ภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่า การจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซล ที่มีการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนอนุรักษ์พลังงาน และภาษีมหาดไทย

อย่างไรก็ดี หากผู้ประกอบการสายการบินโลว์คอสต์ ตัดสินใจที่จะชะลอ หรือลดเที่ยวบิน คงไม่สามารถไปบังคับหรือขอความร่วมมืออะไรได้ ซึ่งจากการสอบถามผู้บริหารสายการบินไทย ก็ได้รับการยืนยันจากชัดเจนว่า หากไม่มีสายการบินไหนขึ้นบิน แต่การบินไทยยังคงพร้อมบินให้บริการประชาชนปกติต่อไป จึงมั่นใจว่าประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

นายพชร กล่าวว่า ปัจจุบันกรมจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินที่ประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี จากภาพรวมการจัดเก็บภาษีน้ำมันทั้งหมด 2 แสนล้านบาทต่อปี ดังนั้น ภาษีน้ำมันเครื่องมันเครื่องบิน จึงไม่ได้มีผลอะไรกับรายได้รัฐบาลมาก อีกทั้งโครงสร้างการจัดเก็บยังต่ำกว่าภาษีสรรพสามิตน้ำมันประเภทอื่นอยู่มาก