posttoday

อาร์เซ็ป16 ประเทศ พร้อมเคาะผลเจรจาการค้าต้องสรุปปีนี้

13 ตุลาคม 2562

รัฐมนตรีอาร์เซ็ปที่กรุงเทพฯ ยืนยันเดินหน้าทำงานเพื่อให้ผู้นำอาร์เซ็ปร่วมประกาศสรุปผลการเจรจาสิ้นปีนี้ เชื่อมั่นสร้างการขยายตัวทางการค้าในภูมิภาค

รัฐมนตรีอาร์เซ็ปที่กรุงเทพฯ ยืนยันเดินหน้าทำงานเพื่อให้ผู้นำอาร์เซ็ปร่วมประกาศสรุปผลการเจรจาสิ้นปีนี้ เชื่อมั่นสร้างการขยายตัวทางการค้าในภูมิภาค

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป ครั้งที่ 9 ว่า รัฐมนตรีอาร์เซ็ปทั้ง 16 ประเทศยืนยันความตั้งใจของผู้นำอาร์เซ็ปที่จะสรุปผลการเจรจาทั้งหมดให้ได้ในปีนี้ ขณะนี้เหลือประมาณ 20 วันก่อนการประชุมผู้นำ โดยทุกประเทศพร้อมจับมือสู่การประกาศสรุปการเจรจา ซึ่งการประชุมที่ยังเหลืออยู่ในปีนี้ คือ การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาร์เซ็ป ระหว่างวันที่ 14 –19 ตุลาคม 2562 ที่กรุงเทพฯ และการประชุมระดับรัฐมนตรีอาร์เซ็ปในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ก่อนการประชุมสุดยอดอาร์เซ็ปครั้งที่ 3 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 ณ กรุงเทพฯ

การประชุมครั้งนี้รัฐมนตรีอาร์เซ็ปยินดีที่ได้ทราบว่าการประชุมคณะกรรมการเจรจาอาร์เซ็ป ครั้งที่ 28 ณ เมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยสามารถสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดได้แล้ว 80.4% ใกล้จะจบ 16% เหลือการเจรจาเปิดตลาดที่จะต้องเร่งหารือกันต่ออีก 3.6% เท่านั้น และสามารถปิดข้อบทได้เพิ่มอีก 6 บท ได้แก่ บทบัญญัติพื้นฐานและคำนิยามทั่วไป บทการค้าสินค้าบททรัพย์สินทางปัญญา บทบัญญัติทั่วไปและข้อยกเว้น บทการระงับข้อพิพาท และบทบัญญัติสุดท้าย

นอกจากนี้ในการประชุมรัฐมนตรีครั้งนี้สรุปเพิ่มอีก 1 บท คือ บทการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา ทำให้จนถึงตอนนี้สรุปได้แล้ว 14 บท และ 3 ภาคผนวก จากทั้งหมด 20 บท และ 3 ภาคผนวก สำหรับอีก 6 บทที่เหลือ ได้แก่ บทการเยียวยาทางการค้า บทการแข่งขัน บทการค้าบริการ บทกฎถิ่นกำเนิดสินค้า บทการลงทุน และบทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นสิ่งที่สมาชิกอาร์เซ็ปต้องเร่งหาข้อสรุปในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนนำเสนอผู้นำประกาศสรุปผลการเจรจาต่อไปในช่วงการประชุมสุดยอดอาร์เซ็ป

ทั้งนี้ หากความตกลงอาร์เซ็ปมีผลบังคับใช้จะครอบคลุมตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรรวมกันกว่า 3,500 ล้านคน หรือเกือบครึ่งของประชากรโลก และมีมูลค่า GDP กว่า 27.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 32.3% ของ GDP โลก มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 29.3 % ของมูลค่าการค้าโลก

ขณะเดียวกัน ความตกลงอาร์เซ็ปจะช่วยลดความซ้ำซ้อนเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ประสานกฎระเบียบและมาตรการทางการค้า ส่งผลให้มีการยอมรับกฎเกณฑ์ด้านมาตรฐานต่างๆ ระหว่างกัน และสร้างความเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุนภายในภูมิภาค