posttoday

ขนส่งเปิดแอพฯ แปะ QR Code รับร้องเรียนรถตู้หัวร้อน!!

20 สิงหาคม 2562

ขนส่งฯเตรียมติด QR Code ให้ผู้โดยสารร้องเรียนรถตู้ผ่านมือถือ ลงโทษภายใน 24 ชั่วโมง ด้านคมนาคมเคาะขยายมาตรการบังคับเปลี่ยนรถมินิบัสไปอีก 6 เดือน สั่งหยุดวิ่งทันที 755 คันหากยังไม่เปลี่ยนรถเก่า

ขนส่งฯเตรียมติด QR Code ให้ผู้โดยสารร้องเรียนรถตู้ผ่านมือถือ ลงโทษภายใน 24 ชั่วโมง ด้านคมนาคมเคาะขยายมาตรการบังคับเปลี่ยนรถมินิบัสไปอีก 6 เดือน สั่งหยุดวิ่งทันที 755 คันหากยังไม่เปลี่ยนรถเก่า

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกยังคงเปิดรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชนในการกำหนดนโยบายรถตู้ผ่านช่องทางเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของกรมการขนส่งทางบก โดยผู้โดยสารถือป็นตัวแปรสำคัญในการยกระดับคุณภาพความปลอดภัยรถตู้ ดังนั้นภายในปี 2563 นี้ จะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ผู้โดยสารแจ้งเบาะแสได้ง่ายยิ่งขึ้นและ ขบ. จะดำเนินการลงโทษภายใน 24 ชั่วโมง

สำหรับแนวทางที่จะใช้คือ การทำ QR Code แปะในรถตู้และทำ QR Code สแกนประวัติผู้ขับขี่ในรถแต่ละคันอย่างชัดเจน ผู้โดยสารสามารถถ่ายภาพและคลิปวิดีโอเป็นหลักฐาน แล้วสแกนข้อมูลลงไปในระบบแอพพลิเคชั่นผ่านมือถือ เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมการขับขี่และความไม่ปลอดภัยได้ทันทีแบบ real-time

นอกจากนี้ข้อมูลดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับบาร์โค้ดของผู้ขับขี่ในรถแต่ละคัน เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเอาผิดผู้ที่ชอบเอาเปรียบประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการกำกับดูแลผู้ขับขี่สาธารณะ นอกจากนี้จะขยายผลไปใช้กับรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซด์ในอนาคตอีกด้วย

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางว่า คณะกรรมการได้เห็นชอบให้ขยายอายุมาตรการบังคับการเปลี่ยนรถตู้เป็นมินิบัสออกไปอีก 6 เดือน เพื่อให้เวลากรมการขนส่งทางบกไปศึกษาความเหมาะสมในการเปลี่ยนรถมินิบัสตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

สำหรับการศึกษานั้น ให้น้ำหนักคะแนนส่วนใหญ่ไปที่การรับฟังเสียงของประชาชนเรื่องความปลอดภัยรถตู้ ประกอบกับเรื่องความคุ้มทุนของผู้ประกอบการ เรื่องเชิงเทคนิคและเศรษฐศาสตร์เป็นต้น

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าประเทศไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่มีการใช้รถตู้มาวิ่งรับส่งผู้โดยสาร แตกต่างจากประเทศอื่นที่ใช้รถตู้ในการขนส่งสิ่งของ ดังนั้นภายหลังจาก 6 เดือนจะสามารถสรุปได้ชัดเจนว่าการบังคับรถตู้เปลี่ยนเป็นรถมินิบัสจะดำเนินการต่อตามมาตรการเดิมหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนเป็นภาคสมัครใจ ส่งผลให้ในระหว่าง 6 เดือนนี้ ผู้ประกอบการรายใด ที่รถตู้หมดอายุการใช้งานจะต้องหยุดวิ่งไปก่อน ซึ่งมีจำนวนราว 755 คัน ยกเว้นเฉพาะรถตู้หมวด 1 วิ่งกรุงเทพและปริมณฑล และรถตู้หมวด 4 วิ่งภายในจังหวัด สามารถเข้ามาตรการภาคสมัครใจได้ กล่าวคือสามารถเลือกได้ว่าจะเปลี่ยนเป็นรถตู้แบบเดิม หรือ เปลี่ยนเป็นรถมินิบัส แต่พอครบ 6 เดือนแล้วมีข้อสรุปออกมาอย่างไรก็ต้องยึดตามเงื่อนไขใหม่ สำหรับสาเหตุที่เปิดให้รถหมวด 1 และ หมวด 4 เป็นภาคสมัครใจนั้น เนื่องจากพบว่าตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุในช่วงปี 2561 ที่ผ่านมามีเพียง 6 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียว ซึ่งถือว่าน้อยมาก

ด้านรถโดยสารที่วิ่งระยะทางไกล หรือ รถตู้หมวด 2 กรุงเทพ-ต่างจังหวัดทุกเส้นทาง และรถตู้หมวด 3 วิ่งระหว่างจังหวัด นั้นในช่วง 6 เดือนนับจากนี้จะยังคงมาตรการเดิมไว้ก่อนคือบังคับให้เปลี่ยนมินิบัสหากรถตู้หมดอายุการใช้งาน ดังนั้นผู้ประกอบการมี 2 ทางเลือกคือ 1.หยุดวิ่ง 2.รอความชัดเจนของนโยบายใน 6 เดือน ส่วนเรื่องข้อจำกัดหากผู้ประกอบการเปลี่ยนมาเป็นมินิบัสนั้น การศึกษาเบื้องต้นพบว่า ผู้ประกอบการต้องมีการลงทุนจำนวนมากและมีจุดคุ้มทุนที่ค่อนข้างนาน จนอาจทำให้ต้องเพิ่มราคาค่าโดยสารเป็นภาระของประชาชน

นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องจุดจอดรถมินิบัสที่ต้องใช้พื้นที่มาก ส่วนเรื่องการขยายเวลาเปลี่ยนรถตู้จากเดิม 10 ปีเป็น 12 ปี นั้น ต้องใช้เวลาศึกษาราว 6 เดือนเช่นกัน แต่การศึกษาจะพิจารณาเรื่องเพิ่มบทลงโทษให้กับผู้ประกอบการและผู้ขับขี่ด้วย หากมีการกระทำผิดหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้น นอกจากนี้จะเข้มงวดรถตู้เช่าเหมาให้มากยิ่งขึ้นเพราะการศึกษาพบว่ารถตู้เช่าเหมาก่อปัญหาให้กับความปลอดภัยอย่างมากและเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง