posttoday

“ทีวี ธันเดอร์” ดันแผนผนึก 'อินฟลูเอ็นเซอร์' ลุยช่องทางคอนเทนต์ ออนไลน์

15 สิงหาคม 2562

พลิกตัวจากแพลตฟอล์มทีวีสู่ดิจิทัล ดึงดาราศิลปินสร้างรายได้จากช่องรายการบน YouTube และ Facebook รับมือเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีลดลงสวนทางต้นทุนพุ่ง มุ่งผลิตคอนเทนต์อีก 3 รายการใหม่ในปีนี้

พลิกตัวจากแพลตฟอล์มทีวีสู่ดิจิทัล ดึงดาราศิลปินสร้างรายได้จากช่องรายการบน YouTube และ Facebook รับมือเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีลดลงสวนทางต้นทุนพุ่ง มุ่งผลิตคอนเทนต์อีก 3 รายการใหม่ในปีนี้

นายพิรัฐ เย็นสุดใจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและให้บริการผลิตรายการโทรทัศน์ เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ โดยจะหาโมเดลสร้างรายได้ใหม่ๆ จากก่อนหน้าได้ปรับพอร์ตรายได้ใหม่เพื่อสร้างสมดุลย์(บาลานซ์)ความเสี่ยงธุรกิจ แบ่งออก 2 ส่วน ได้แก่ แบ่งรายได้กับช่อง (time-sharing) ปัจจุบันมี 3 รายการ ที่ออกอากาศช่อง 33 เอชดี ได้แก่ มาสเตอร์คีย์ เวทีแจ้งเกิด, หลวงตามหาชน และ เทคมีเอาท์ไทยแลนด์ โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ วางแผนเพิ่มอีก 1 รายการ

โดยรายได้อีกส่วน มาจากการรับจ้างผลิตจากช่องต่างๆ เช่น แฟนฉันเป็นซุปตาร์, CUTEBOY Thailand ช่องทรูโฟร์ยู เป็นต้น รวมถึงผลิตคอนเทนต์ป้อนให้แพลตฟอร์มโอทีที หรือคอนเทนต์บนออนไลน์ เช่น ไลน์ทีวี เอไอเอสเพลย์มากขึ้น ซึ่งสัดส่วนการรับจ้างผลิตจะอยู่ที่ 60% และไทม์แชริ่ง 40%

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งโมเดลสำคัญสำหรับทีวีธันเดอร์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง คือ การร่วมมือเป็นพันธมิตร(พาร์ทเนอร์)กับดารา ศิลปิน หรือ อินฟลูเอ็นเซอร์ ต่างๆที่มีชื่อเสียงปัจจุบันเริ่มเห็นแล้วไม่ต่ำกว่า 3 รายการ เช่น ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์ กับรายการ “นังตัวดี” ซึ่งกระแสตอบรับค่อนข้างดี จากสปอนเซอร์ให้การตอบรับที่ดี และติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รายการ “ปริมไม่อาว” โดยร่วมกับครอบครัวของคุณเบนซ์ พรชิตา-มิค บรมวุฒิ ซึ่งได้กระแสตอบรับดีในทุกตอน จากยอดวิวเฉลี่ยกว่า 1 ล้านวิว

ล่าสุดรายการ กระเตงลูก ร่วมกับ เมญ่า นนทวรรณ พร้อมลูกชาย มาทำรายการออนไลน์ครั้งแรก ซึ่งหลังจากปล่อยคลิปไปได้เพียงแค่ 1 สัปดาห์ มียอดวิวทะลุมากกว่า 1 ล้านในทุกๆ แพลตฟอร์ม ซึ่งรายการออนไลน์ที่ บริษัทวางแผนผลิตรายการ ผลักดันให้ยอดวิวในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของธีวี ธันเดอร์ โตขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 30% ส่งผลให้มียอดผู้ชมรวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านวิวต่อเดือน และในเร็วๆนี้ บริษัทเตรียมปล่อยรายการที่เป็น Original content อีกหลายรายการที่สร้างสรรค์ร่วมกันกับศิลปิน ดารา เพิ่มขึ้นอีกภายในปีนี้

นายพิรัฐ กล่าาว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์เพียง 3% ของรายได้รวม โดยตั้งเป้าปีนี้จะรายได้จากช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นเป็น 25-30 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 17 ล้านบาทและคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ต่อปี ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า

"ด้วยจุดแข็งและประสบการณ์ของทีวีธันเดอร์ที่สามารถผลิตรายการได้หลากหลายประเภท รวมทั้งยอดผู้ติดตามบนยูทูปของเราที่มีมากกว่า 4.5 ล้านผู้ติดตามจะช่วยในการกระจายคอนเทนต์เข้าสู่กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น" นายพิรัฐ กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานบริษัทในปีนี้ คาดว่ามีทิศทางเป็นบวก จากปัจจัยสนับสนุน เม็ดเงินโฆษณาที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงลูกค้าหลายรายเริ่มใช้เงินโฆษณาสินค้าเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาเริ่มกลับมาในช่วงไตรมาส 3/2562 (กรกฏาคม-ตุลาคม) โดยบริษัทฯ ประเมินแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิตรายการโทรทัศน์ครึ่งปีหลัง ยังมีความต้องการสูง

ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าจะผลิตรายการโทรทัศน์เพิ่มเป็น 10 รายการ หรือเพิ่มอีก 3 รายการ จากปัจจุบันอยู่ที่ 7-8 ราย พร้อมวางเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน 522.96 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากธุรกิจการผลิตรายการโทรทัศน์ให้กับช่องทีวีดิจิทัล ที่คาดจะเติบโต 20% ซึ่งยังคงมุ่งเน้นการผลิตรายการโทรทัศน์ให้กับช่องทีวีดิจิทัลเดิม