“สมคิด”สั่งพลังงานร่วมดูแลเศรษฐกิจฐานราก เร่งปตท.เดินหน้าโครงการปุ๋ยสั่งตัด-ผุดห้องเย็นเก็บผลไม้ช่วยเกษตรกร
“สมคิด”มอบนโยบายกระทรวงพลังงาน ดึงพลังานร่วมลดภาระค่าครองชีพประชาชน กำชับ ปตท. เดินหน้าโครงการปุ๋ยสั่งตัด สร้างห้องเย็นเก็บผลไม้ช่วยสินค้าเกษตร
“สมคิด”มอบนโยบายกระทรวงพลังงาน ดึงพลังานร่วมลดภาระค่าครองชีพประชาชน กำชับ ปตท. เดินหน้าโครงการปุ๋ยสั่งตัด สร้างห้องเย็นเก็บผลไม้ช่วยสินค้าเกษตร
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงพลังงาน ว่า พลังงานต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลเศรษฐกิจฐานราก การลดค่าครองชีพให้ประชาชน ตลอดจนการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยต้องการให้ปตท. เดินหน้านโยบายรัฐบาลในโครงการปุ๋ยสั่งตัดช่วยเหลือเกษตรกรด้วย? ชักชวนนักลงทุนหรือผู้เชี่ยวขาญต่างประเทศ มาร่วมดำเนินการ ซึ่งไม่ใช่เข้ามาแข่งขันกับเอกชน แต่เน้นปุ๋ยสูตรที่จำเป็นเพื่อลดต้นทุนเกษตรกร และต้องคำนึงถึงพื้นที่ พืชที่ปลูก และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยต้องมีความสอดคล้องกันด้วย
นอกจากนี้ได้ฝากให้ไปพิจารณาสร้างห้องเย็นเพื่อเก็บผลไม้ในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญทั้ง ภาคใต้ ภาคตะวันออก เพื่อให้สามารถเก็บผลผลิตได้นานพยุงราคาไม่ให้ตกต่ำ ขณะเดียวกันให้เปิดพื้นที่ในปั๊มน้ำมันเพื่อจำหน่ายสินค้าชุมชน ให้มากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้หากปตท.เข้ามาร่วมช่วยเกษตรกรได้จะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรดีขึ้นได้
นอกจากนี้ขอให้กระทรวงพลังงานไปพิจารณาการนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีสถานะเป็นบวก ซึ่งช่วงที่ราคาน้ำมันถูกลง โดยเห็นว่าควรนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าเป็นเงินฝากกินดอกเบี้ย ขอให้ไปดูว่าเงินกองทุนน้ำมันฯที่มีอยู่ กว่า 3 หมื่นล้านบาท สามารถไปทำอะไรได้บ้าง
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าวว่า ปตท.กำลังวางแผนทำทั้ง2เรื่องแต่สิ่งสำคัญคือต้องทำให้เบ็ดเสร็จ หากสร้างห้องเย็นแล้ว ไม่มีช่องทางจำหน่ายในอนาคตจะทำอย่างไร ส่วนปุ๋ยสั่งตัดก็กำลังทดลองหลายพื้นที่และใช้ผลพลอยได้จากปิโตรเคมีในกลุ่มปตท.มาผลิตและจะใช้เอนไซม์หรือส่วนผสมอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยร่วมมือกับกรมที่ดินในการพัฒนาปุ๋ยสั่งตัดให้เหมาะสมกับพื้นที่ด้วย
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า เร็วๆนี้จะเดินทางไปมอบนโยบายให้กับผู้บริหาร ปตท.และ กฟผ. โดยเฉพาะนโยบายที่เป็นเรื่องแนวคิดนอกกรอบ เช่น การสร้างสตาร์ทอัพ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร
สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้เพื่อลดค่าครองชีพด้านพลังงาน อยู่ระหว่างการประสานกับกระทรวงการคลัง ในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นกลไกสำคัญเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) และ ก๊าซเอ็นจีวี นอกจากนี้ยังเข้าไปแนวคิดเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอี ที่มีภาระต้นทุนพลังงาน โดยจะเชื่อมโยงข้อมูล Big Data กับกระทรวงอุตสาหกรรม