posttoday

ห้างฯเกษร อัดแคมเปญใหญ่ กู้วิกฤตนักช็อปไทย-เทศ

10 พฤศจิกายน 2553

ห้างฯเกษร อัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี กู้วิกฤตนักช็อปไทย-เทศหด จากพิษบาทแข็ง-น้ำท่วม หวังสิ้นปีนี้โตคงที่

ห้างฯเกษร อัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี กู้วิกฤตนักช็อปไทย-เทศหด จากพิษบาทแข็ง-น้ำท่วม หวังสิ้นปีนี้โตคงที่

นางสาธิมา ทานาเบ้ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เกษร แลนด์ แอสเซท แมนเนจเม้นท์ ผู้บริหารศูนย์การค้าเกษร เปิดเผยว่า ในปลายปีนี้ บริษัทเตรียมงบสัดส่วน 18% ของยอดรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ใช้งบ15% ของรายได้รวม จัดแคมเปญพิเศษฉลองเทศกาลปีใหม่ในชื่อ “เกษรเพียวรีวอร์ด”  พร้อมร่วมฉลองครบรอบ5 ปีศูนย์การค้าเกษรด้วย โดยร่วมกับแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ไทยที่อยู่ในศูนย์การค้า ทั้งแฟชั่น นาฬิกาเครื่องประดับ สปาและความงาม สินค้าตกแต่งบ้าน ฯลฯ พร้อมส่วนลดราคาสูงสุด 70% เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมายหลักในประเทศสัดส่วน 70% และต่างชาติ30%  ในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปี54

พร้อมจัด 5รางวัลพิเศษ 5 ให้แก่ลูกค้าลูกค้าที่มียอดการใช้จ่ายสูงสุดตลอดแคมเปญ อาทิ แพ็กเกจสปาและห้องพักแบบวิลล่า ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น เกาะสมุย, กำไลเพชรดำจากโอลิเวียไดมอนด์,แพ็กเกจสปาและห้องพักแบบวิลล่าที่โฟร์ซีซั่นรีสอร์ท เชียงใหม่ หรือ เครื่องบินบังคับด้วย ไอโฟน เป็นต้น และร่วมกับบัตร อเมริกันเอ็กซ์เพรส โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรลุ้นรางวัลสอยดาว คาดแคมเปญนี้จะช่วยผลักดันให้รายได้รวมของบริษัทในสิ้นปีนี้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหรือเติบโคคงที่ และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อวันเพิ่มขึ้น 10-15% จากวันธรรมดาเฉลี่ย1.2 หมื่นคน และวันหยุดอยู่ที่ 1.4 หมื่นคนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.-5 ม.ค.54

ทั้งนี้ บริษัทยอมรับว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าเงินบาทเปรียบเทียบเหรียญสหรัฐที่แข็งค่าขึ้นมากเทียบกับช่วงหลายปีก่อน เพราะทำให้ยอดลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าลดลง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับสูง และกลุ่มผู้มีชื่อเสียง(เซเลบริตี) ที่หันไปจับจ่ายซื้อสินค้าแบรนด์เนมในต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่งไม่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย  หลังปัญหาทางการเมืองในประเทศเมื่อพ.ค.ที่ผ่านมา

“ปัญหาเงินบาทที่แข็งค่ามาก ส่งผลให้ราคาสินค้าแบรนด์เนมในไทยที่ปกติจะมีราคาขายปลีกแตกต่างจากประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย 5-8% จะมีส่วนต่างของราคามากขึ้นและอาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหันไปชอปปิงประเทศอื่นในเอเชียแทนไทย และยังไม่สามารถคาดการได้ว่า นักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาในประเทศอีกครั้งเมื่อไหร่” นางสาธิมา กล่าว

ขณะที่ยอดลูกค้าต่างชาติและคนไทยที่เข้ามาใช้บริการตั้งแต่เปิดให้บริการเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ลดลง 20-30% และกระทบต่อรายได้ของร้านค้าในศูนย์ที่ปรับตัวลดลงตามไปด้วย โดยกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่หายไปจะอยู่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าต่างชาติจากประเทศจีน เข้ามาในประเทศมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถชดเชยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปได้ รวมถึงกลุ่มลูกค้าคนไทย ที่เป็นเจ้าของกิจการทั้ง กิจการโรงสีข้าว และเจ้าของกิจการพืชผลการเกษตรหลายรายได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมที่ฉุดรายได้ลดลง และเข้ามาใช้จ่ายในศูนย์ลดลงไปด้วย

ทั้งนี้ ศูนย์การค้าเกษร กลับมาเปิดให้บริการเดือนพ.ค. หลังปิดไปนาน 60 วันจากปัญหาการชุมนุมการเมือง ซึ่งบริษัทคาดจะกลับมาฟื้นและมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตามปกติภายใน 3 เดือน แต่จนถึงเดือนพ.ย.นี้ลูกค้ายังเข้ามาใช้บริการยังไม่ได้อยู่ในระดับปกติแต่อย่างใด