posttoday

ก้าวที่เติบโต แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ

19 มิถุนายน 2562

อุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของประเทศไทยเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศ ในปี 2562

 

อุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของประเทศไทยเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศ ในปี 2562 มีงานแสดงสินค้านานาชาติรายใหม่มากถึง 17 งานที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการหรือทีเส็บให้การสนับสนุน นับเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี งานรายใหม่มีหลากหลายสาขา อาทิ InfoComm SEA ซึ่งเป็นงานอุปกรณ์ AV สมัยใหม่สำหรับสร้าง integrated experience ของบริษัท InfoComm Asia จากสิงคโปร์ งานนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตยา CPhI South East Asia จัดโดย UBM Asia งาน Asia Lifestyle Expo จัดโดย N.C.C ของไทยและ ComAsia จากฮ่องกง งาน ANDTEX งานด้าน woven material สำหรับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ จัดโดย E.J. Krause & Associates, Inc. จากสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

ก้าวที่เติบโต แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ

การจัดงานนิทรรศการและงานแสดงสินค้านานาชาติของประเทศไทยในปีที่แล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าชมงานกว่า 200,000 คน ผู้จัดแสดงสินค้าในงานกว่า 35,000 ราย บนพื้นที่การจัดงานกว่า 640,000 ตารางเมตร (พื้นที่ขายสุทธิ) และสร้างรายได้ถึง 19,150 ล้านบาท (602 ล้านเหรียญสหรัฐ) นอกจากนี้ จากรายงานของ UFI (The Global Association of the Exhibition Industry) หรือสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในประเทศฝรั่งเศส พบว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่สามารถสร้างผลกำไรได้มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจากรายงาน The Trade Fair Industry of Asia 14th Edition (2560) ที่เผยแพร่โดย UFI เช่นกัน ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นลำดับที่ 8 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีจำนวนงานแสดงสินค้า 92 งาน รองจากประเทศจีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน และออสเตรเลีย และมีการเพิ่มพื้นที่การจัดงานร้อยละ 26 การจัดอันดับของประเทศไทยในอุตสาหกรรมนี้จะยังคงไต่ระดับได้ต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของไทยในปีงบประมาณ 2562 ของทีเส็บ พบว่า ไตรมาสที่ 1 และ 2  พบว่า ผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.60 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 มีจำนวนทั้งหมด  92,284 คน ในขณะที่รายได้เติบโตร้อยละ 19.05%  จำนวน 7,030 ล้านบาท

ก้าวที่เติบโต แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ

ในปีนี้ ทีเส็บมีแคมเปญกระตุ้นการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย ชื่อ 360 Degree Business Success ที่ประกอบด้วยมาตรการสนับสนุนที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้จัดงานทั้งของไทยและจากทั่วโลกเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนได้คุ้มค่าที่สุด และมีช่องทางเข้าถึงภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในภูมิภาค โดยแคมเปญนี้ทีเส็บได้พัฒนาขึ้นภายใต้แบรนด์ใหม่ขององค์กร Thailand REDEFINE Your Business Events

1 ในมาตรการสนับสนุนที่น่าสนใจสำหรับผู้จัดงานของประเทศไทยคือ Bidding Fund Programme ที่ทีเส็บจะให้การสนับสนุนทางการตลาดให้กับความร่วมมือระหว่างผู้จัดงานของไทยและต่างประเทศในการนำงานใหม่ๆ มาจัดแสดงในประเทศไทย และช่วยให้เข้าถึงและสามารถติดต่อกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเป้าหมาย นอกจากนี้ ผู้จัดงานของไทยที่จะนำงานใหม่หรือต้องการ clone งานมาจัดในประเทศไทยสามารถขอรับการสนับสนุนให้กับกิจกรรมการตลาดภายใต้โปรแกรมนี้เช่นกัน สำหรับผู้จัดงานจากต่างประเทศสามารถสมัครขอรับการสนับสนุนในการลงพื้นที่สำรวจความพร้อมของสถานที่จัดงาน โดยทีเส็บพร้อมประสานงานให้ได้พบปะกับผู้เกี่ยวข้องทั้งในภาครัฐและเอกชนที่ผู้จัดงานจากต่างประเทศต้องการ กรณีของการร่วมทุนระหว่างผู้จัดงานของไทยและต่างประเทศ ทีเส็บพร้อมสนับสนุนภายใต้โปรแกรมนี้เช่นกัน โดยเฉพาะในแง่ของการสอบทานสถานะทางธุรกิจ

มาตรการอื่น ๆ ประกอบด้วย ASEAN+6 Privilege ได้ถูกคิดขึ้นเพื่อดึงผู้เข้าชมงานจากกลุ่มประเทศ ASEAN+6 ให้มาเจรจาธุรกิจในงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย และมาตรการ Exhibiz in Market เพื่อดึงองค์กรธุรกิจในต่างประเทศให้มาจัดตั้ง National Pavilion ในงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย

ก้าวที่เติบโต แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ

นางสาวกนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “หน้าที่หลักของทีเส็บยังคงเป็นการสนับสนุนให้การจัดงานในประเทศไทยเป็นไปด้วยความราบรื่นและ มีประสิทธิผลให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มาตรการสนับสนุนการตลาดที่หลากหลายภายใต้แบรนด์ REDEFINE จะช่วยยกระดับธุรกิจของผู้ร่วมงานแสดงสินค้าให้ประสบความสำเร็จในระดับสากล”

“แนวทางใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนความสำเร็จของงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ได้ช่วยสร้างการเติบโตให้กับการค้าทั้งภายในประเทศและระดับภูมิภาค และในฐานะที่ประเทศไทยเป็นตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (จากตัวเลขล่าสุดของ UFI) ทีเส็บจึงมุ่งเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการจัดโรดโชว์ในประเทศเมียนมาและเวียดนามในช่วงต้นปีนี้”

เมียนมาเป็นตัวอย่างของประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตของงานแสดงสินค้า กระทรวงพาณิชย์ได้ระบุตัวเลขการค้าแบบทวิภาคีระหว่างประเทศไทยและเมียนมาในปี 2561 ที่ 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเพื่อตอกย้ำการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ในช่วงต้นปีนี้ ผู้จัดงานของไทย 6 รายที่เข้าร่วมโรดโชว์ของทีเส็บ ณ ประเทศเมียนมา ได้มีโอกาสพบปะกับสมาคมการค้าของเมียนมาและมีโอกาสนำนักธุรกิจเมียนมาจำนวน 10 กลุ่มเข้าร่วมชมงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ทั้งงานด้านการแพทย์และยา การแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์ การค้าปลีก โลจิสติกส์ และกีฬา

ทีเส็บไม่ได้มุ่งเจาะเฉพาะแคมเปญที่จะดึงงานแสดงสินค้าใหม่ๆ เข้ามาเท่านั้น แต่ยังมุ่งทำให้ผู้จัดงานของไทยสามารถร่วมมือกับผู้จัดงานจากต่างประเทศที่จะมาจัดงานใหม่ๆ ในประเทศไทยอีกด้วย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์นี้ ทีเส็บมีกำหนดจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ผู้จัดงานของไทยเข้าใจกระบวนการในการร่วมทุนกับผู้จัดงานต่างประเทศที่จะนำงานใหม่มาจัดแสดงในประเทศไทย

ปลายปีนี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมใหญ่ระดับโลกของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ คืองาน  UFI Global Congress ครั้งที่ 86 ในวันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2562 ณ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ และอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท ซึ่งจะเป็นงานประชุมของมืออาชีพที่จัดงานแสดงสินค้าระดับโลก ทีเส็บและพันธมิตรภาคเอกชนจึงพร้อมจัดเตรียมงานเพื่อให้เป็นงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด

สร้างผลสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณในวันนี้  เพราะอนาคตของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าของประเทศไทยกำลังสดใส