posttoday

'ดีแทค'ขาดทุน4.3พันล้าน ตั้งสำรองยอมจ่ายยุติข้อพิพาทกสท

29 มกราคม 2562

ดีแทคปิดปี 2561 พลิกขาดทุน 4,300 ล้าน ยอมเจ็บตั้งสำรองยุติข้อพิพาท กสทฯ 9,500 ล้าน ตั้งงบลงทุนปีนี้ 1.3 หมื่นล้าน แจกปันผลเหมือนเดิม

ดีแทคปิดปี 2561 พลิกขาดทุน 4,300 ล้าน ยอมเจ็บตั้งสำรองยุติข้อพิพาท กสทฯ 9,500 ล้าน ตั้งงบลงทุนปีนี้ 1.3 หมื่นล้าน แจกปันผลเหมือนเดิม

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทมีผลดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 4,363.69 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.85 บาท แย่ลงกว่า 300% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,114.97 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.89 บาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

โดยบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากปีก่อน เป็นผลจากการระงับข้อพิพาทกับบริษัท กสท โทรคมนาคม (CAT) เพราะถ้าหากไม่มีรายการนี้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจะลดลง

ทั้งนี้ ก่อนหน้าบริษัทแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ยอมยุติข้อพิพาทที่มีอยู่กับ กสทฯ ด้วยการยอมจ่ายผลตอบแทนให้เป็น 9,500 ล้านบาท ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์คาดกันว่าดีแทคจะขาดทุนในปีนี้จาก การตั้งสำรองการจ่ายผลตอบแทนให้ กสทฯ

นายดิลิป ปาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงินของดีแทค กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนในช่วง 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าให้ดีขึ้น รวมทั้งมีความปรารถนาที่จะกลับมาเติบโต พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปี 2561 รายได้จากการให้บริการของบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากการแข่งขันในตลาดที่อยู่ในระดับสูง ในขณะที่ความไม่แน่นอนในประเด็นเรื่องการหมดอายุสัญญาสัมปทานได้ส่ง ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งส่งผลให้ รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อ โครงข่ายในปี  2561 ลดลง 2.8% จากปีก่อน และอีบิตดาอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท ลดลง 6.7% จากปีก่อน โดยส่วนใหญ่ เป็นผลกระทบจากรายได้จากการให้บริการที่ลดลง รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการโรมมิ่ง 4จี บนโครงข่ายคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ที่จ่ายให้กับบริษัท ทีโอที และค่าใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์โทรคมนาคมที่จ่ายให้ กสทฯ

ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2561 บริษัทมีฐานลูกค้ารวมอยู่ที่ 21.2 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 1.5 ล้านเลขหมายจากปีก่อนอันเป็นผลจากการลดลงของฐานลูกค้าระบบเติมเงิน ในขณะที่การเติบโตของฐานลูกค้าระบบรายเดือนช่วยชดเชยได้บางส่วน โดยฐานลูกค้าระบบเติมเงินมีจำนวนอยู่ที่ 15.1 ล้านเลขหมาย ลดลงกว่า 1.9 ล้านเลขหมายจากปีก่อน อันเป็นผลจากการแข่งขันในตลาดที่อยู่ในระดับสูงและการเปลี่ยนลูกค้าจากระบบเติมเงินเป็นระบบรายเดือน ในขณะที่ฐานลูกค้าระบบรายเดือนมีจำนวนเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 6.1 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 0.4 ล้านเลขหมายจากปีก่อน และแนวโน้มฐานลูกค้ารวมของบริษัทในไตรมาส 4 ปี 2561 เริ่มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และยืนยันจ่ายปันผลคงเดิม

หุ้น DTAC ปิด 43 บาท ลดลง 0.75 บาท