posttoday

ก้าวรุก...เฮงเค็ลไทย ปรับธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล

25 ธันวาคม 2561

หลังจากเฮงเค็ลดำเนินธุรกิจในประเทศไทย มากว่า 45 ปี และเป็นผู้นำตลาดและผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมกาว

เรื่อง ปากกาด้ามเดียว

หลังจากเฮงเค็ลดำเนินธุรกิจในประเทศไทย มากว่า 45 ปี และเป็นผู้นำตลาดและผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมกาว มีกลุ่มลูกค้าและเป้าหมายในการทำธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่งในปี 2562 ที่จะถึงนี้ เฮงเค็ลประกาศปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับยุคดิจิทัล โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อีริค อีเดลแมน ประธานบริษัทเฮงเค็ล ประเทศไทย เปิดเผยว่า ก้าวรุกนับจากนี้บริษัทจะมุ่งเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจกาวอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการทำงานใกล้ชิดกับลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในเชิงลึกรวมถึงเทรนด์ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและโซลูชั่นให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ เฮงเค็ลยังมีแผนจะสร้างการเติบโตด้วยการปรับธุรกิจเข้าสู่ดิจิทัล โดยให้ความสำคัญกับคู่ค้าและผู้บริโภค ตลอดจนซัพพลายเออร์ในห่วงโซ่คุณค่า โดยเริ่มใช้แนวคิดอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อให้การวางแผน คัดแยก การผลิต และการส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นทำได้ดีขึ้น สำหรับประเทศไทยเฮงเค็ลได้นำแนวคิดโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) มาใช้เป็นผลสำเร็จในโรงงานกาวที่บางปะกง ซึ่งช่วยพัฒนาการผลิต ความปลอดภัยและความยั่งยืนให้ดีขึ้น

ขณะเดียวกันเฮงเค็ลได้เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งให้ข้อมูลและบริการแบบเรียลไทม์แก่ลูกค้าในธุรกิจกาว รวมถึงพันธมิตรในการจัดจำหน่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

“ประเทศไทยเป็นตลาดกาวที่สำคัญของเฮงเค็ล เนื่องจากเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งยังเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสำคัญต่างๆ อาทิ อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน อาหารและเครื่องดื่ม” อีเดลแมน กล่าว

พร้อมกันนี้ บริษัทยังส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลภายในบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการทำงานและพัฒนาความสามารถด้านดิจิทัลให้กับพนักงาน โดยมอบแนวทางการเรียนรู้ให้กับพนักงาน 2 แนว คือ การฝึกอบรมด้านดิจิทัลและการเพิ่มทักษะใหม่

สำหรับการฝึกอบรมด้านดิจิทัลเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับประเด็นดิจิทัลต่างๆ เช่น การตลาดดิจิทัลและการพัฒนาพฤติกรรมและการคิดแบบดิจิทัล ส่วนการเพิ่มทักษะดิจิทัลเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้วิธีการทำงานใหม่ๆ เช่น การนำระบบและกระบวนการทำงานแบบอัจฉริยะมาใช้ในสภาพแวดล้อมแบบอุตสาหกรรม 4.0

นอกจากนี้ เฮงเค็ลยังได้ทำงานร่วมกันกับลูกค้าและผู้ผลิตเครื่องจักรเพื่อพัฒนากาวและโซลูชั่นการผลิตสำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์อันโดดเด่น และเดินหน้าร่วมมือกับบริษัทรถยนต์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีกาวที่ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการผลิต ทั้งยังช่วยให้สามารถผลิตรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบาและประหยัดพลังงาน

ทั้งนี้ ในปี 2560 เฮงเค็ลได้เข้าซื้อธุรกิจทั่วโลกของดาเร็กซ์ แพคเกจจิ้ง เทคโนโลยี ทำให้เฮงเค็ลขยายความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่ม และกระป๋องได้มากขึ้นในประเทศไทย

จากรายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 ของปี 2561 ยอดขายจากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวมีสัดส่วน 47% ของยอดขายทั่วโลกของเฮงเค็ล กรุ๊ป และมีการเติบโต 3.8% ส่วนกลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์มียอดขายเพิ่มขึ้น 0.5% และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมียอดขายเติบโต 2.5%

ในส่วนของปีนี้ เฮงเค็ลตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกเติบโตประมาณ 2-4% จาก 20,029 ล้านยูโร หรือราว 7.4 แสนล้านบาท ในปี 2560 ซึ่งยอดขายมากกว่า 40% ของธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมาจากนวัตกรรม และมีอัตราการใช้นวัตกรรมในธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ลอยู่ที่ประมาณ 30%

“ความยั่งยืนถือว่าเป็นหัวใจในกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเฮงเค็ล บริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนานวัตกรรมที่สร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจของเฮงเค็ลและลูกค้าในระยะยาว” อีเดลแมน กล่าว

ก้าวรุก...เฮงเค็ลไทย ปรับธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล

ปัจจุบันเฮงเค็ลมีโรงงานผลิตกาว 2 แห่งในประเทศไทย อยู่ที่ อ.บางปะกง จ.ชลบุรี และ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยสินค้าของเฮงเค็ล ได้แก่ กาววัสดุอุดกันรั่ว (ซีลแลนด์) และสารเคลือบผิว ภายใต้แบรนด์ชั้นนำ อาทิ เช่น ล็อคไทท์, เทคโนเมลท์, บอนเดอร์ไรท์, เทอโรซอล และเอเควนซ์