posttoday

ซีอีโอใหม่ไดกิ้นเปิดแผน ปี 2020 ขึ้นผู้นำตลาดแอร์

20 ธันวาคม 2561

ซีอีโอใหม่ไดกิ้น ประกาศแผนเชิงรุก ด้วยการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยทุกเซ็กเมนต์ภายในปี 2020 และมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท

โดย...จะเรียม สำรวจ

ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดสำหรับตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย แม้ว่าปี 2561 สภาพอากาศจะไม่ค่อยเป็นใจ แต่หลังจากผู้ประกอบการหันมารุกทำตลาดอินเวอร์เตอร์และเจาะลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้ยังขยายตัวได้ดีที่ประมาณ 5% จากปี 2560 ที่ตลาดรวมมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4.73 หมื่นล้านบาท

การแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ทำให้ อาคิฮิสะ โยโคยามา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ ที่เพิ่งเข้ามา รับตำแหน่งเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ต้องออกมาประกาศแผนเชิงรุก ด้วยการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยทุกเซ็กเมนต์ภายในปี 2563  (2020) และมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของไดกิ้น ทั่วโลกที่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดเครื่อง ปรับอากาศ ซึ่งปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดใน 150 ประเทศทั่วโลก

จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวส่งผลให้ปีที่ผ่านมามีรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 6.6 แสนล้านบาท ในมูลค่าดังกล่าว 76% เป็นรายได้ที่มาจากการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น โดยสินค้าหลัก ที่สร้างรายได้ให้กับไดกิ้นทั่วโลกคือ เครื่องปรับอากาศคิดเป็นสัดส่วน 90% ตามด้วยธุรกิจเคมิคอล 8% ธุรกิจเครื่องจักรใช้น้ำมันและเครื่องกำเนิดออกซิเจน 2%

โยโคยามา กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายช่องทางการทำตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศ บริษัท ยังคงมีการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปทำตลาดในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะไทยมีโรงงานผลิตสินค้าขนาดใหญ่ถึง 3 แห่ง คือ โรงงานผลิตคอมเพรสเซอร์ โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศ และโรงงานผลิตแพ็กเกจจิ้ง โดยปัจจุบันมีการส่งออกไปทำตลาดในเอเชีย 54% ออสเตรเลีย 20% ไต้หวัน ฮ่องกง และอินเดีย 16% ยุโรป 3% และญี่ปุ่น 7%

พรเทพ พรประภา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ กล่าวว่า กำลังการผลิตของโรงงานในประเทศไทยที่ทำการผลิตสินค้าอยู่ตอนนี้มีอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณ 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ซึ่งหากกำลังการผลิตที่ประเทศไทยเต็ม จะหันไปใช้ฐานการผลิตที่ประเทศเวียดนามเข้ามาช่วยเสริม แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้กำลังการผลิตที่เหลือยังเพียงพอกับการขยายธุรกิจ

ด้าน สมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยบริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของสื่อประชาสัมพันธ์คาดว่าจะเริ่มเผยแพร่ผ่านสื่อได้ในช่วงปลายไตรมาสแรกปี 2562 ซึ่งพรีเซนเตอร์ที่จะนำมาใช้เพื่อสื่อสารแบรนด์ไปถึงผู้บริโภคยังคงเป็น ณเดชน์ คูกิมิยะ เพราะสามารถสร้างการจดจำแบรนด์ผ่านตัวพรีเซนเตอร์ได้เป็นอย่างดี

พร้อมกันนี้ ยังมีแผนจะขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ (ตัวแทนจำหน่าย) มากขึ้น ควบคู่ไปกับการเข้าไปสนับสนุนด้านบริการของดีลเลอร์ และให้ร้านของ ดีลเลอร์เข้ามาสมัครเป็น Authorized Service Dealer กับบริษัทจำนวนมาก เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานของดีลเลอร์ ซึ่งจากแนวทางดังกล่าวคาดว่าปี 2562 จะสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายที่มาจากตลาดต่างจังหวัดได้เป็น 60% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 50% เท่ากับตลาดกรุงเทพฯ

สมพร กล่าวอีกว่า จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวคาดว่ารอบบัญชีปี 2561 ที่จะปิดในสิ้นปีเดือน มี.ค. 2562 นี้ บริษัทน่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องปรับอากาศ โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 29% เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณ 2% เนื่องจากสินค้าใหม่ที่เปิดตัวเข้าไปทำตลาด โดยเฉพาะรุ่นสบาย อินเวอร์เตอร์ ได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี