posttoday

เศรษฐกิจ-หุ้นเสี่ยง เลือกตั้ง-ดอกเบี้ย-สงครามการค้า

08 ธันวาคม 2561

เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้มูลค่าการส่งออกหายไป 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และภาพรวมการท่องเที่ยวที่ลดลง

เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้มูลค่าการส่งออกหายไป 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และภาพรวมการท่องเที่ยวที่ลดลง

ณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2561 อยู่ที่ 4.3% และปี 2562 โต 4% โดยเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้มูลค่าการส่งออกหายไป 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และภาพรวมการท่องเที่ยวที่ลดลง

ขณะเดียวกัน มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยในปี 2562 จะเติบโตต่อเนื่อง จากการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนของภาครัฐและเอกชน ที่พบว่ามีหลายโครงการที่ได้เปิดประมูลทั้งโครงการไฮสปีดเทรน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างราบรื่นจะส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจากเม็ดเงินลงทุนของภาครัฐ และความต่อเนื่องการจัดตั้งงบประมาณปี 2563

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 19 ธ.ค. 2561 มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% เช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด โดยที่ผ่านมาทางด้านของธนาคารเเห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการส่งสัญญาณออกมาอย่างชัดเจน เนื่องจากขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้แบงก์ชาติต้องมีเครื่องมือในการดำเนินนโยบายทางการเงิน ขณะเดียวกันมองว่า ในปี 2562 กนง.จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลังอีก 2 ครั้ง ขณะที่ค่าเงินบาทในปีนี้จะอยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์

สำหรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารไทยในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 5% ชะลอลงจาก 6% ในปีนี้ จากสินเชื่อบ้านและรถยนต์ที่โตชะลอลง ด้านหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอลของระบบธนาคารไทยและต่างชาติ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ที่เกือบร้อยละ 3 ในไตรมาส 3 ปีหน้า และปรับตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.98 สิ้นปี 2562 และในปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 2.91

ด้าน ประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย แนะนำลงทุนในหุ้นที่อิงกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มธนาคารพาณิชย์  โรงแรมและรับเหมาก่อสร้าง พร้อมติดตามข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐ

ขณะที่คาดว่าช่วงต้นปี 2562 เงินบาทแข็งค่ารับการเลือกตั้ง ด้านเศรษฐกิจไทย คาดการณ์เติบโตปานกลางและเงินเฟ้อระดับต่ำ โดยคาดว่าปีหน้า จีดีพีโต 3.8% และปี 2563 โต 4% ส่วนเศรษฐกิจโลกโตชะลอตัวกดดันภาคการส่งออกไทยปีหน้าโตเพียง 5.5% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ 7% ส่วนนักท่องเที่ยวปีหน้าคาดว่าอยู่ที่ 39.5 ล้านคน และปี 2563 อยู่ที่ 43 ล้านคน

“ประเมินแรงกดดันจากดอกเบี้ยและเงินเฟ้อสหรัฐลดลง จะหนุนกระแสเงินไหลกลับกลุ่มประเทศเกิดใหม่” ประกิต กล่าว

ขณะที่ บล.กสิกรไทย คาดว่า ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวในกรอบจำกัดไม่เกิน 65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังโอเปกลดกำลังการผลิตน้อยกว่าตลาดคาด

อย่างไรก็ดี ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเป็นสิ่งที่ต้องติดตาม คาดว่ารู้ผลก่อนวันที่ 1 มี.ค. 2562 ซึ่งหากบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก และคาดว่าจะทำให้เกิดปริมาณการค้ามากขึ้น โดยคาดว่านักวิเคราะห์จะทบทวนประมาณการจีดีพีโลกปี 2562

สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การกำหนดกรอบการเลือกตั้งที่ชัดเจนทำให้ปัจจัยลบลดลงแต่ยังไม่หมดไปทีเดียว ซึ่งคาดว่าหุ้นไทยจะค่อยๆ แกว่งตัวขึ้นหากไม่มีปัจจัยลบจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มอีก แต่ก็ต้องคอยดูเรื่องเศรษฐกิจชะลอในปีหน้า