posttoday

ร้านเครื่องสำอางผวา เดอะเฟสชอปหั่นเป้าเพิ่มสาขา

06 ธันวาคม 2561

เดอะเฟสชอป ปรับแผนลดเปิดสาขาใหม่ลงเท่าตัว เหลือปีละ 10 แห่ง หลังกำลังซื้อทรุด หนี้ครัวเรือนสูง ระบุเน้นเปิดทำเลดีดันรายได้โต

เดอะเฟสชอป ปรับแผนลดเปิดสาขาใหม่ลงเท่าตัว เหลือปีละ 10 แห่ง หลังกำลังซื้อทรุด หนี้ครัวเรือนสูง ระบุเน้นเปิดทำเลดีดันรายได้โต

นายพิธาน องค์โฆษิต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีเอฟเอส (ไทยแลนด์) ผู้จัดจำหน่ายเดอะเฟสชอป อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายเครื่องสำอาง นับจากนี้ บริษัทจะเพิ่มความระวังในการขยายร้านเดอะเฟสชอปสาขาใหม่มากขึ้น ด้วยการลดการเปิดสาขาใหม่กว่า 1 เท่าตัว จากเดิมจะเปิดปีละประมาณ 25-30 สาขา ลดเหลือ 10 สาขา เนื่องจากปัจจุบัน กำลังซื้อของผู้บริโภคชาวไทยยังอยู่ในภาวะชะลอตัว เพราะหนี้ครัวเรือนยังสูง

ทั้งนี้ แผนการเปิดสาขาใหม่จำนวนดังกล่าว บริษัทได้เริ่มดำเนินการแล้วในปี 2561 ด้วยการเปิดสาขาใหม่เพียง 10 สาขาเท่านั้น ทำให้สิ้นปีมีร้านเดอะเฟสชอปเปิดให้บริการทั้งหมด 90 สาขา และในปี 2562 ก็จะเปิดเพิ่มอีก 10 สาขา เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว เห็นได้จากภาพรวมตลาดความงามที่ทรงตัวตั้งแต่ ช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี หลังจากเข้าสู่ช่วงไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอย ภาพรวมตลาดความงามก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นและคาดว่าจะขยายตัวดีต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ดังนั้น การขยายสาขาใน ปีหน้าบริษัทจึงจะเน้นการขยายสาขาไปในทำเลที่มีศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็นหลัก เพื่อให้การทำตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"ในส่วนของภาพรวมเดอะเฟสชอป ในครึ่งปีแรกถือว่าเติบโตดีมาก เพราะบริษัท มีการปรับกลยุทธ์ในการทำตลาด ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาผ่านสื่อเป็นปีแรก พร้อมกับดึง แต้ว ณฐพร มาเป็นแอมบาสซาเดอร์ให้กับร้านเดอะเฟสชอป จากแผน การทำตลาดดังกล่าวทำให้บริษัทมียอดขายเติบโตสูงถึง 50%" นายพิธาน กล่าว

นายพิธาน กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่บริษัทให้ความสำคัญ คือ การวางตำแหน่งสินค้าให้มีราคาจับต้องง่ายใกล้เคียงกับเกาหลี เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันเริ่มให้การตอบรับแบรนด์เดอะเฟสชอปดีขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขาต่างจังหวัดคิดเป็นสัดส่วน 60% และกรุงเทพฯ 40%

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะใช้สื่อโฆษณาเป็นสื่อหลักสำหรับการทำตลาดในปีหน้า ด้วยการเข้าไปสนับสนุนรายการทีวีที่ตรงถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงการทำตลาดดิจิทัล เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 หรือเติบโตที่ 30% มียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท หลังจากปี 2561 สามารถสร้างยอดขายได้เติบโตสูงถึง 50% หรือมียอดขายอยู่ที่ 750 ล้านบาท