posttoday

กทม.รั้งที่2เมืองท่องเที่ยวโลก ต่างชาติมาเพิ่ม5.5%

05 ธันวาคม 2561

กทม.ยังรั้งอันดับ 2 เมืองท่องเที่ยวโลก เป็นรองแค่ฮ่องกงใน 100 จุดหมายทั่วโลก แต่อัตราเติบโตลดลง กูรูเตือนสงครามการค้าอาจฉุดท่องเที่ยวไทย 7,000 ล้าน

กทม.ยังรั้งอันดับ 2 เมืองท่องเที่ยวโลก เป็นรองแค่ฮ่องกงใน 100 จุดหมายทั่วโลก แต่อัตราเติบโตลดลง กูรูเตือนสงครามการค้าอาจฉุดท่องเที่ยวไทย 7,000 ล้าน

บริษัทวิจัยการตลาด ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยรายงาน 100 อันดับเมืองที่มีผู้ท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกประจำปี 2561 ว่า กรุงเทพฯ ยังคงรั้งอันดับ 2 เมืองที่มีผู้เข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ตามหลังฮ่องกง ซึ่งครองอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 8 พร้อมคาดการณ์ว่าจำนวนการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกในปีนี้ จะเพิ่มขึ้น 5% แตะ 1,400 ล้านทริป

ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในกรุงเทพฯ ปีนี้อยู่ที่ราว 23.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.5% จากปี 2560 แต่เติบโตลดลงจากปีก่อนที่ขยายตัวได้ 8.5% โดยคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในกรุงเทพฯ ปี 2563 จะเพิ่มขึ้นเป็น 28.5 ล้านคน และในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 39.8 ล้านคน

สำหรับ จ.ภูเก็ต ยังคงรั้งอันดับที่ 11 ของโลก แต่อัตราเติบโตขยายตัวลดลงอยู่ที่ 2.9% เมื่อเทียบปีก่อนที่โตได้ 12% โดยมียอดนักท่องเที่ยวราว 11.949 ล้านคน ขณะที่เมืองพัทยาลดลงจากอันดับ 24 เป็น 25 แต่อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 16.1% จากปีก่อนที่โตได้ 5.3% โดยมียอดอยู่ที่ 8.62 ล้านคน

นอกจากนี้ ประเทศในเอเชียติดอันดับมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีเมืองในเอเชียติดอันดับ 41 แห่ง เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 37 แห่ง ในปี 2555 โดยประเทศที่โดดเด่นด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตต่อเนื่องคือ ญี่ปุ่นและอินเดีย

อย่างไรก็ดี ยูโรมอนิเตอร์เตือนว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวทั่วโลกในปีนี้ลดลง 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.88 หมื่นล้านบาท) โดยไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวเพราะสงครามการค้ามากที่สุด โดยอยู่ที่ราว 227 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,429 ล้านบาท) ขณะที่ฮ่องกงจะกระทบ 222 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,266 ล้านบาท) และญี่ปุ่นถูกกระทบ 218 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,135 ล้านบาท)

ขณะที่ปัญหานักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง วอเธอร์ เกิร์ธส ที่ปรึกษาด้านการวิจัยตลาดท่องเที่ยวจากยูโรมอนิเตอร์ ระบุว่า หากสงครามการค้ายังคงยืดเยื้อต่อไป ปริมาณการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนอาจลดลง 1.15 ล้านทริป ในปี 2562 ซึ่งส่งผลให้คาดการณ์ปริมาณการท่องเที่ยวของชาวจีนต้องลดลงเหลือ 107.1 ล้านทริป จากคาดการณ์เดิมที่ 108.3 ล้านทริป ขณะที่การอ่อนค่าของเงินหยวนจะส่งผลกระทบให้ดีมานด์การออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนลดลงไปด้วย

ขณะเดียวกัน ยูโรมอนิเตอร์ คาดการณ์ว่า จีนจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก ภายในปี 2573 โดยอันดับล่าสุดของปีนี้ จีนมีเมืองที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกอยู่ 2 เมือง