หอการค้าหวั่นพรรคการเมืองรื้อยุทธศาสตร์

หอการค้าคาดเงินเลือกตั้งสะพัด 8 หมื่นล้าน พยุงเศรษฐกิจปีหน้าโตเกิน 4%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2561 และแนวโน้มปี 2562 ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ว่า คาดว่าเศรษฐกิจในปี 2562 จะขยายตัวในกรอบ 3.8-4.2% และความน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดเศรษฐกิจขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4% เนื่องจะได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายของพรรคการเมืองและหัวคะแนน ในการเลือกตั้ง 8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายในการเลือกตั้ง สส. 4 หมื่นล้านบาท และการเลือกตั้งท้องถิ่นอีก 4 หมื่นล้านบาท

"เงินสะพัดจากการเลือกตั้งนั้น คาดว่าจะช่วยดันจีดีพีในปีหน้าได้เพิ่มอีก 0.5% เพราะเชื่อว่าการเมืองแข่งขันกันดุเดือด ช่วยให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นกลับมาคึกคักได้ระดับหนึ่ง" นายธนวรรธน์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีเม็ดเงินการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี อีก 2-3 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยเป็นภูมิคุ้มกันผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามการค้าโลกได้เป็นอย่างดี รวมถึงผลกระทบที่คาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายไตรมาส 2

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยในงานการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 36 ว่า หอการค้าไทยต้องการให้พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (สส.) และได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ไม่ควรรื้อแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพราะการรื้อและมาจัดทำใหม่ก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

"การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ละครั้งมักจะรื้อนโยบายใหม่ ทำให้นักลงทุนต้องเปลี่ยนแผนธุรกิจ การมียุทธศาสตร์จะทำให้เอกชนสามารถวางแผนธุรกิจระยะยาวได้" นายวิชัย กล่าว