posttoday

ลุยร้านประชารัฐบนมือถือ ชิงกำลังซื้อบัตรสวัสดิการ

01 ธันวาคม 2561

"สนธิรัตน์" สั่งเร่งรัดเพิ่มร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแบบใช้มือถือ 1 แสนรายสิ้นเดือน ธ.ค. รับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่ม 3.08 ล้านราย

"สนธิรัตน์" สั่งเร่งรัดเพิ่มร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแบบใช้มือถือ 1 แสนรายสิ้นเดือน ธ.ค. รับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่ม 3.08 ล้านราย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดผลักดันให้ร้านค้ารายย่อยที่อยู่ในตลาดสด ร้านค้าทั่วไป ร้านขายอาหารสำเร็จรูป สมัครเข้าร่วมโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแบบใช้มือถือในการรับชำระค่าสินค้าจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ได้ 1 แสนรายภายในสิ้นเดือน ธ.ค. 2561 หลังจากที่ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้ามาแล้วกว่า 3.2 หมื่นราย เพื่อรองรับการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเข้ามาในระบบอีก 3.08 ล้านราย ที่จะสามารถเริ่มใช้บัตรซื้อสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป

"ขอให้เร่งรัดรับสมัครร้านค้ารายเล็กรายน้อยให้เข้าเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐโดยเร็ว เพราะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 14.5 ล้านราย ถือเป็นกำลังซื้อที่สำคัญ จากการที่รัฐบาลได้ช่วยเหลือค่าครองชีพเข้าไปในบัตรเดือนละกว่า 4,000 ล้านบาท เมื่อมีจำนวนผู้ถือบัตรเพิ่มขึ้น วงเงินก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย" นายสนธิรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ เงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนจะถูกนำไปใช้จ่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ถ้าร้านค้ารายเล็กรายน้อยเข้ามาร่วมโครงการ จะได้ประโยชน์จากการมาใช้จ่ายของผู้ถือบัตร โดยรัฐบาลประเมินแล้วเกิดประโยชน์จริง จึงได้อนุมัติงบเข้าบัตรไปจนถึงเดือน ก.ย. 2562

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกให้กับผู้ถือบัตร โดยได้หารือกับผู้ผลิตสินค้าในการผลิตสินค้าป้อนให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยจะเปิดตัวในวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ซึ่งจะมีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพหลากหลายรายการมาจำหน่าย และเมื่อเปิดตัวแล้ว จะมีการ กระจายสินค้าเข้าสู่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อให้ผู้ถือบัตรซื้อได้ทันที และยังเปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตทุกราย หากใครผลิตของถูกและดีได้ก็เสนอเข้ามา

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาให้ร้านค้ารายย่อย ร้านค้าในชนบท ร้าน โชห่วย รวมถึงร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ค้าขายออนไลน์ได้นั้น กระทรวงได้หารือกับผู้บริหารของบริษัท TOM Group ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท อูเล่ (Ule) และเป็นบริษัทในเครือของ ลีกาชิง มหาเศรษฐีของฮ่องกง ได้ตกลงที่จะส่งทีมมาให้คำแนะนำกับไทยในช่วงเดือน ม.ค. 2562 เพื่อให้นำโมเดลไปใช้ในการผลักดันให้ร้านค้ารายย่อยของไทยสามารถขายสินค้าออนไลน์ได้

สำหรับอูเล่โมเดล เป็นโครงการที่จีนได้นำมาใช้ในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับร้านค้าในชนบท โดยไปรษณีย์ของจีนได้ร่วมมือกับบริษัท TOM Group เปิดแพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ www.Ule.com ให้ร้านค้า ในชนบททั่วประเทศนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในเว็บไซต์ และเมื่อมีคนสั่งซื้อสินค้า ไปรษณีย์ก็จะเป็นผู้รับสินค้านำไปจัดส่งให้ ซึ่งจะนำรูปแบบนี้มาใช้กับไทย เพื่อช่วยเหลือร้านค้าในชนบท ร้านค้ารายย่อยให้สามารถค้าขายออนไลน์ได้