posttoday

อสมท ปรับยุทธศาสตร์ สร้างดาต้าผ่านคอนเทนต์ ดึงรายการต่างประเทศเสริมทัพดึงผู้ชม

30 พฤศจิกายน 2561

อสมท เปลี่ยนจากธุรกิจทีวีและวิทยุสู่การสร้างดาต้าผ่านคอนเทนต์ พร้อมดึงบีบีซี เฟิร์ส ดิสคัฟ เวอรี่ และบลูมเบิร์กเสริมแกร่ง เรียกคนดู

อสมท เปลี่ยนจากธุรกิจทีวีและวิทยุสู่การสร้างดาต้าผ่านคอนเทนต์ พร้อมดึงบีบีซี เฟิร์ส ดิสคัฟ เวอรี่ และบลูมเบิร์กเสริมแกร่ง เรียกคนดู

นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2562 ที่จะถึงนี้ บริษัทจะดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่คือ "สร้างการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม เที่ยงตรง สร้างสรรค์ ทันสถานการณ์ อย่างชาญฉลาด" ภายใต้แนวคิด MCOT : The Difference สร้างความต่าง ด้วยการนำเนื้อหา หรือคอนเทนต์ที่มีอยู่มาต่อยอดธุรกิจ จากเดิมเน้นการหารายได้จากธุรกิจทีวีและวิทยุเป็นหลัก

สำหรับกลยุทธ์ที่บริษัทจะนำมาใช้ในการทำธุรกิจนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป จะประกอบด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ กลยุทธ์ที่ 1 The Audiences หรือการจับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ด้วยการจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง BBC First รายการสาระและความรู้ รวมไปถึงรายการวาไรตี้มาออกอากาศ

นอกจากนี้ ยังได้จับมือกับ Bloomberg ผลิตรายการธุรกิจระดับโลก ทั้งในด้านสกู๊ปพิเศษ ข่าวการเงินและเศรษฐกิจระดับโลกที่คนไทยต้องรู้มาออกอากาศ รวมไปถึงการนำเอาสารคดีสัตว์ที่ชาวไทยชื่นชอบ จากผู้ผลิตรายการสารคดีสัตว์ชั้นนำอย่าง NHK ประเทศญี่ปุ่น มาให้คนไทยได้ชม เป็นต้น
 
สำหรับกลยุทธ์ที่ 2 The Viewers มุ่งกลุ่มผู้ชมผู้ฟังที่ชื่นชอบการใช้สื่อออนไลน์ โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่น "ฟังเพลิน" ที่รวบรวมคลื่นวิทยุทั้งในเครือ อสมท และวิทยุชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศมากถึง 543 สถานี มาให้บริการ

ขณะเดียวกัน MCOT.NET ยังได้ผนึกกำลังกับ CIBN (China International Broadcasting Network) พันธมิตรยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน นำคอนเทนต์ด้านวัฒนธรรม ท่องเที่ยว อาหาร เกษตรอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์ชุมชนมาให้ได้ชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

ด้านกลยุทธ์ที่ 3 คือ The Partners บริษัทจะจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ผ่านโครงการ "C-SPACE" (Creative, Content and Communication) ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ผู้ผลิตรายการและนักคิดรุ่นใหม่เสนอรายการใหม่ๆ เพื่อต่อยอดผลงานไปยังตลาดต่างประเทศ

"ตลาดที่ถือว่ายังเป็นบลูโอเชียนสำหรับผู้ประกอบการทีวีคือ ออนไลน์ และการส่งคอนเทนต์เข้าไปทำตลาดในต่างประเทศ ซึ่งในปีหน้าบริษัทจะหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดในธุรกิจ ดังกล่าวมากขึ้น" นายเขมทัตต์ กล่าว

นายเขมทัตต์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของผังรายการปี 2562 ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการวางแผนธุรกิจ เนื่องจากปีหน้าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น จึงทำให้ต้องมีการทบทวนแผน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งสัดส่วนของคอนเทนต์ที่จะนำมาออกอากาศยังคงเป็นรายการข่าว 30% บันเทิง 40-50% และรายการสารคดี 10-20% โดยในส่วนของรายการที่นำมาออกอากาศส่วนใหญ่ยังคงเน้นไปที่การให้สาระความรู้กับผู้ชม เนื่องจากบริษัทต้องการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด

ทั้งนี้ จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวบริษัทมั่นใจว่าจะขยายฐานผู้ชมเพิ่มได้เป็นที่น่าพอใจ และสามารถลดปัญหาขาดทุนได้ดีขึ้น หลังจากปี 2561 นี้ บริษัทสามารถลดการขาดทุนในการดำเนินธุรกิจได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา