posttoday

ธุรกิจใช้บิ๊กดาต้า กุญแจไขความสำเร็จ

19 พฤศจิกายน 2561

ในยุคที่การทรานส์ฟอร์เมชั่นภาคธุรกิจด้วยดิจิทัลกำลังถูกผลักดันในประเทศไทย

เรื่อง...ปากกาด้ามเดียว

ในยุคที่การทรานส์ฟอร์เมชั่นภาคธุรกิจด้วยดิจิทัลกำลังถูกผลักดันในประเทศไทย บิ๊กดาต้าเป็นหนึ่งในเทรนด์สำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจในยุค 4.0 ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกในปริมาณที่มากพอเพื่อขับเคลื่อนและลดความผิดพลาดของธุรกิจ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ออกจากกองข้อมูลมหาศาลนำมาเพิ่มมูลค่า

จากการสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าประจำปี 2560 โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับบริษัทไอดีซี รีเสิร์ช (ไทยแลนด์) พบว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าในปี 2561 จะเติบโตเพิ่มขึ้น 13.7% มีมูลค่าถึง 13,642 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 16.4% ในปี 2562 คิดเป็นมูลค่า 15,671 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจไทยกำลังถูกท้าทายและผลักดันให้ก้าวข้ามการเรียนรู้ประโยชน์ที่บิ๊กดาต้ามีต่อธุรกิจเพียงทฤษฎี และต้องเริ่มเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถนำข้อมูลมหาศาลทั้งจากภายในและภายนอกกลับมาใช้ประโยชน์ให้เป็นด้วยการวิเคราะห์อย่างมีระบบ เพื่อให้บิ๊กดาต้าขององค์กรกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์พิชิตความสำเร็จในยุคดิจิทัล

อิชิโร ฮาระ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) บริษัทที่ปรึกษาและให้บริการปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจ ในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการพูดถึงการนำองค์กรธุรกิจก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นมาระยะหนึ่งแล้ว โดยการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือ บิ๊กดาต้า

ขณะที่ เอบีม ประเทศ ไทย ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจในประเทศไทยได้รับคุณค่าใหม่อย่างแท้จริง (Realcustomer Value) จากการเชื่อมโยงข้อมูลดิจิทัลระหว่างองค์กร และเพื่อใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้าในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ทางธุรกิจ รวมไปถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา

ธุรกิจใช้บิ๊กดาต้า กุญแจไขความสำเร็จ

หนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นคือ การร่วมมือกับกลุ่มตรีเพชรจัดงานแฮกกาธอน “Hackathon by Tri Petch Group X ABeam” ในงาน CEBIT ASEAN THAILAND 2018 ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ได้นำเสนอแนวคิดและเฟ้นหาไอเดียการนำบิ๊กดาต้ามาต่อยอดธุรกิจรถยนต์ โดยให้โจทย์นำบิ๊กดาต้าจำนวนมหาศาลของกลุ่มตรีเพชร ซึ่งเกี่ยวกับ “Vehicle Insight Data” ที่เก็บรวบรวมเอาข้อมูลเชิงลึกของรถต่างๆ ประมาณ 7-8 ปี ใช้เป็นข้อมูลไปวิเคราะห์เอาข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาใช้สร้างมูลค่าสำหรับธุรกิจรถยนต์

สำหรับทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีม ADME กลุ่มนิสิตจากสาขาวิชาการออกแบบและการผลิตยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นำเสนอไอเดียนำข้อมูลบิ๊กดาต้าของกลุ่มตรีเพชรไปใช้ประโยชน์กับตลาดรถมือสอง ด้วยแนวคิด “รถยนต์ไม่ควรมีราคาขายต่อที่เท่ากัน” เนื่องจากพฤติกรรมการขับรถของผู้ขับขี่รถแต่ละคันส่งผลกับสภาพรถยนต์ที่ต่างกันไปด้วย โดยนำเอาบิ๊ก ดาต้าเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่มาวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อตีมูลค่ารถยนต์ และยังสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับสังคมได้ เพราะผู้ใช้จะปรับปรุงพฤติกรรมการขับรถให้ดียิ่งขึ้นหากต้องการได้ราคาขายต่อรถที่ดีขึ้น สร้างให้เกิดสังคมขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนนได้อีกด้วย

“ไอเดียที่ได้จากงานแฮกกาธอน ‘Hackathon by Tri Petch Group X ABeam’ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและจำเป็นของธุรกิจที่ต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจะต้องมีการบริหารจัดการข้อมูลบิ๊กดาต้าอย่างชาญฉลาด” ฮาระ กล่าว

ปัจจุบันวิวัฒนาการของเทคโนโลยีไอโอทีสร้างข้อมูลจำนวนมหาศาลให้กับธุรกิจ ดังนั้นองค์กรธุรกิจจึงต้องพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการอบรม การทดสอบวิธีการวิเคราะห์ รวมทั้งการสนับสนุนทางด้านเทคนิค ควบคู่กับใช้ระบบในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เรื่องกลยุทธ์ บุคลากรและการจัดองค์กร กระบวนการทางธุรกิจ และระบบต่างๆ ให้ทุกหน่วยงานในองค์กรสามารถบริหารการวิเคราะห์ข้อมูลได้