บริหารความต่าง ด้วย DISC

โดย...ดร.อัจฉรา จุ้ยเจริญ

การศึกษาด้านภาวะผู้นำแห่งอนาคต โดย ดร.มาร์แชล โกลด์สมิท และทีมงานได้ระบุถึงความสำคัญของสมรรถนะของผู้นำในด้านการบริหารความหลากหลาย (Managing Diversity) การบริหารบุคลากรที่มีความแตกต่างในด้านความคิด ค่านิยม แรงจูงใจ ความถนัด และความหลากหลายอื่นๆ ได้ดี สามารถนำความคิดเห็นที่หลากหลายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะช่วยให้องค์กรเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญ และองค์กรต้องการความคิดสร้างสรรค์

ผู้บริหารส่วนใหญ่มองเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ดี อย่างไรก็ตาม การบริหารทีมที่มีความแตกต่างหลากหลายก็ไม่ง่ายเสมอไป ทีมอาจเผชิญอุปสรรคต่างๆ เช่น ความขัดแย้งด้านสไตล์การทำงาน ความชอบ และวิธีสื่อสารที่ต่างกัน หากทีมก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ นี้ไปไม่ได้ อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ความเครียด และขาดโฟกัสในการบรรลุเป้าหมาย

การช่วยให้บุคลากรที่มีความแตกต่างหลากหลายเข้ากันได้ดี ส่งเสริมให้เกิดความสนใจในด้าน “รู้เขา รู้เรา” เข้าใจสไตล์กันและกัน เป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้สมาชิกในทีมที่มีความแตกต่างกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งที่ไม่สร้างสรรค์ต่างๆ ได้รวดเร็วและลงตัว

หนึ่งในเครื่องมือที่หลากหลายองค์กรใช้เพื่อสร้างความตระหนักในสไตล์พฤติกรรมของตนเอง (Self-Awareness) และช่วยให้วิเคราะห์และเข้าใจผู้อื่น (Social Awareness) คือ แบบวิเคราะห์สไตล์พฤติกรรม DISC เพราะเข้าใจง่ายและนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้รวดเร็ว

นอกจากนำ DISC ไปใช้เพื่อให้รู้เขา รู้เรา แล้ว ยังสามารถนำผลวิเคราะห์ไปใช้ในด้านอื่นๆ ได้อีกเช่น การพัฒนาภาวะผู้นำ การวางแผนอาชีพและเป้าหมายในงานและชีวิต การโน้มน้าวจูงใจผู้อื่น การสื่อสารกับบุคคลรอบตัวให้เกิดผลลัพธ์และมีความสุข การคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน การประเมินสมรรถนะและพัฒนาผลการปฏิบัติงาน การประเมินวัฒนธรรมของทีม การประเมินจุดอ่อนและจุดแข็งของทีม และอื่นๆ อีกมากมาย

แบบวิเคราะห์พฤติกรรมของบุคคลมักจะได้รับอิทธิพลมาจากผลการศึกษาของคาร์ล กุสตาฟ ยุง (Carl Gustav Jung) ซึ่งเป็นจิตแพทย์ชาวสวิส ผู้ก่อตั้งสำนักจิตวิทยาวิเคราะห์

แบบวิเคราะห์ Extended DISC® เป็นหนึ่งในแบบวิเคราะห์สไตล์พฤติกรรมที่อธิบายลักษณะพฤติกรรมที่แตกต่างได้ละเอียด ระบุทั้งจุดแข็ง คำแนะนำในการพัฒนาตนเอง และการร่วมงานกับคนต่างสไตล์อย่างมีประสิทธิภาพ แบบวิเคราะห์นี้ให้ความหมายของ DISC  ดังนี้

- D มาจากคำว่า Dominance ในที่นี้ หมายถึง สไตล์พฤติกรรมแบบชอบควบคุม บงการ

- I มาจากคำว่า Influence หมายถึง สไตล์พฤติกรรมแบบชอบโน้มน้าว จูงใจ สร้างมนุษยสัมพันธ์

- S มาจากคำว่า Steadiness หมายถึง สไตล์พฤติกรรมแบบเสมอต้น เสมอปลาย

- C มาจากคำว่า Compliance หมายถึง สไตล์พฤติกรรมแบบเคารพปฏิบัติตามหลักการหรือกฎระเบียบ

การนำ DISC มาประยุกต์ใช้ให้มีประสิทธิผล มีข้อพึงระวังคือ ไม่ควรนำมาตีตราว่าสไตล์ใด สามารถทำงานได้หรือไม่ได้ เพราะผลรายงานส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุว่า ใครเก่งกว่าใคร หรือใครฉลาดกว่าใคร และไม่ได้จำกัดว่าบุคคลพัฒนาไม่ได้

ข้อมูลจากการวิเคราะห์เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการให้แผนที่ในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลรอบตัว เป็นการช่วยให้เราปรับการแสดงออกของตนเองแบบอัตโนมัติ หรือแบบไม่รู้ตัว มาเป็นการแสดงออกอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์

ผู้นำของทีมสามารถใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์เพื่อเข้าใจจุดแข็งของตนเองและนำออกมาใช้มากขึ้นเพื่อความสำเร็จในการบริหารของตนเอง นอกจากนั้น เพื่อให้เข้าใจสไตล์ของผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชา เข้าใจจุดแข็ง ความถนัดด้านพฤติกรรม แรงจูงใจ และวิธีการพัฒนาที่เหมาะสมกับสไตล์ของผู้ใต้บังคับบัญชา

ความแตกต่าง หากบริหารได้ลงตัว ย่อมเป็นเรื่องดี หากความแตกต่างไม่เคยมี และทุกคนคิดแบบเดียวกันหมด นั่นอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากกว่านะคะ