เลือกตั้งดันยอดรถกระบะโต
มิตซูบิชิ ย้ำปัจจัยบวกเศรษฐกิจประเทศดีต่อเนื่องถึงปีหน้า ล่าสุดเปิดตัวกระบะไทรทันใหม่
มิตซูบิชิ ย้ำปัจจัยบวกเศรษฐกิจประเทศดีต่อเนื่องถึงปีหน้า ล่าสุดเปิดตัวกระบะไทรทันใหม่
นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ คาดจะส่งผลดีต่อปริมาณความต้องการของตลาดรถกระบะให้เติบโตขึ้น รวมทั้งภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนของรัฐบาลในระบบโครงสร้างพื้นฐาน (เมกะโปรเจกต์) และเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) คาดจะส่งผลดีต่อเนื่องถึงตลาดรถยนต์เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ระดับราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย รวมถึงการคาดการณ์อัตราเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่ในปีนี้จะอยู่ในระดับ 4.2-4.5 ส่วนการสิ้นสุดการถือครองรถยนต์คันแรก 5 ปี และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นปัจจัยบวกส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดรถยนต์
สำหรับภาพรวมตลาดรถยนต์ 10 เดือนอยู่ที่ราว 8.3-8.5 แสนคัน เติบโตขึ้นราว 20-25% ซึ่งบริษัทมองว่าตลาดในปีนี้มีโอกาสจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปีภาพรวมตลาดในประเทศ 1 ล้านคัน โดยคาดจะอยู่ที่ 1.05-1.07 ล้านคัน จากปัจจัยบวกดังกล่าวข้างต้น
ด้านการส่งออกในภาพรวมของประเทศอาจชะลอตัวเล็กน้อย แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบริษัทมีการส่งออกชิ้นส่วนเพื่อไปประกอบรถยนต์ที่โรงงานในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งยังส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเติบโตอยู่
นายชกกิ กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทเปิดตัว มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ คาดจะส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของมิตซูในรถกระบะที่เป็นอันดับ 4 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 9% จะเพิ่มขึ้นเป็นเลข 2 หลักได้ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2561 โดยปัจจุบันยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนของรถกระบะรุ่นดังกล่าวอยู่ที่ 3,000 คัน/เดือน และจะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 4,000 คัน/เดือน หลังจากนี้
ขณะที่โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่จะสิ้นสุดการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอในสิ้นปี 2561 นี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและยังเหลือเวลาอีก 2 เดือน คาดจะได้ข้อสรุปภายในกำหนดเวลาดังกล่าวได้ทันอย่างแน่นอน ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจจากการ
ส่งเสริมนโยบายของรัฐบาลเช่นกัน แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ