ไอคอนสยามยิ่งใหญ่พิธีเปิดอลังการ

เมืองไอคอนสยามได้ฤกษ์ กดปุ่มอลังการ คาดลูกค้าใช้บริการทะลุ 1.5 แสนคน/วัน ด้านห้างญี่ปุ่นทาคาชิมายา เชื่อปีแรกได้ 3,800 ล้าน

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการบริษัท ไอคอนสยาม เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้ใช้งบลงทุนไปกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการเปิดตัวโครงการไอคอนสยามอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อย เพื่อเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ของคนทั่วโลก ด้วยการชูจุดเด่นของการเป็นเมืองศูนย์รวมของความมหัศจรรย์ทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม การช็อปปิ้ง และความบันเทิง ผ่านสินค้าไทยจาก 77 จังหวัด และแบรนด์หรูจากต่างประเทศที่พร้อมใจกันเปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ผสานความเป็นไทย

สำหรับแผนการทำตลาดศูนย์การค้าไอคอนสยามในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ บริษัทได้ใช้งบ 1,000 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ โดยงบ 70% จะใช้ไปกับการจัดงานเฉลิมฉลอง 3 วัน คือ วันที่ 9-11 พ.ย. ส่วนที่เหลืออีก 30% จะใช้ไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2561 โดยกิจกรรมแรกที่ทำขึ้นหลังเปิดให้บริการคือ การทำโปรโมชั่นจัดเต็ม ระหว่างวันที่ 9 พ.ย. 2561-20 ม.ค. 2562 ทุกการช็อปลุ้นรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และพิเศษวันที่ 10 พ.ย. 2561 ช็อปครบ 1 หมื่นบาท รับคืนสูงสุด 2 หมื่นบาท

“ทุกร้านที่เข้ามาอยู่ในไอคอนสยามล้วนแต่เชิดชูความเป็นไทย โดยตอนนี้พื้นที่ที่เปิดให้บริการจะอยู่ที่ชั้นจีถึงชั้น 5 ส่วนชั้น 6 ซึ่งเป็นโซนร้านอาหารภายใต้ชื่อ ‘อลังการ’ จะเปิดให้บริการวันที่ 1 ธ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะทยอยเปิดให้บริการในส่วนของไอคอนฟิตเนส ไอคอนฮอลล์ พิพิธภัณฑ์ และรถไฟฟ้าสายสีทอง คาดว่าจะเปิดให้บริการครบในปีหน้า” นางชฎาทิพ กล่าว

นอกจากนี้ ภายในศูนย์การค้ายังมี 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่คอยต้อนรับลูกค้า ได้แก่ 1.River Park - Community Space ขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 2.ระบำสายน้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ICONIC Multimedia Water Features” 3.สุขสยาม - เมืองมหัศจรรย์ที่เป็น Co-Creation Space 4.ทรูไอคอนฮอลล์ - ศูนย์ประชุมนวัตกรรมล้ำยุค 5.รถไฟฟ้าสายสีทอง 6.พิพิธภัณฑ์ระดับโลก “ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก” และ 7.ปรากฏการณ์รวมโลกในรอยไทย ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อวันที่ 1.5 แสนคน
แบ่งเป็นคนไทย 65-70% ต่างชาติ 30-35%

ด้าน นายชิเกรุ คิโมโตะ ประธานบริหารบริษัท ทาคาชิมายา กล่าวว่า สยาม ทาคาชิมายา จะเป็นห้างสรรพสินค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ห้างสรรพสินค้าในไทยและทาคาชิมายาของญี่ปุ่น ด้วยการรวบรวมของดีจากประเทศญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น เครื่องสำอาง นาฬิกา ของใช้ในชีวิตประจำวัน อาหาร ที่มีมากกว่า 530 แบรนด์ ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการในปีแรกคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 3,800 ล้านบาท และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการปีละไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน คาดถึงจุดคุ้มทุนใน 2 ปี

นายคิโมโตะ กล่าวว่า การเลือกเปิดสาขาแรกในไทยที่ไอคอนสยาม เพราะบริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพโครงการและผู้ร่วมทุนของไอคอนสยาม รวมทั้งการที่ไอคอนสยามเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทุนสำหรับการลงทุนในเมืองไทยรวม 2,200 ล้านบาท โดยไอคอนสยามเข้ามาถือหุ้น 49% ในนามบริษัท สยามริเวอร์ โฮลดิ้งส์ อีก 51% เป็นบริษัท ทาคาชิมายาสิงคโปร์ บริษัทลูกในสิงคโปร์

ทั้งนี้ การเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นไปตามแผนการขยายธุรกิจในอาเซียนของบริษัทแม่ในญี่ปุ่น โดยไทยเป็นสาขาที่ 4 ในเอเชียนอกญี่ปุ่น ได้แก่ สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ และโฮจิมินห์ ซึ่งจากความสำเร็จที่ได้รับจากสิงคโปร์ บริษัทจึงได้มีการนำกลยุทธ์มาปรับใช้ให้เข้ากับความต้องการของคนไทย ด้วยการเน้นจุดแข็งทางด้านบริการที่แตกต่าง สินค้าที่มีคุณภาพ โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะเป็นสินค้าญี่ปุ่น 30% สินค้าไทย 70%