ดันฟื้นเวทีกรอ.ลดเหลื่อมล้ำแก้ปัญหาชาติเพิ่มขีดสามารถแข่งขัน

กกร.ชงรัฐ จัดเวที กรอ.หลังเว้นไป 4 ปี เปิดทางรัฐ-เอกชนร่วมวางแนวทางพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า กกร.เตรียมเสนอรัฐบาลให้จัดประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานภายในปีนี้ เพื่อเป็นเวทีให้ภาคเอกชนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกับรัฐบาล หลังจากที่ไม่มีการจัดประชุม กรอ.ส่วนกลางมากว่า 4 ปีแล้ว

สำหรับประเด็นที่ภาคเอกชนให้ความสำคัญและอยากเสนอต่อภาครัฐ เช่น การลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน วางแนวทางในการยกระดับการศึกษาโดยเฉพาะกลุ่มอาชีวศึกษาที่จะเป็นกำลังหลักของภาคอุตสาหกรรม การปรับปรุงกฎหมายที่สำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการด้านเศรษฐกิจและสังคม การอำนวยความสะดวกชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศที่ต้องกรอกใบ ตม.6 ขณะที่ในต่างประเทศมีการยกเลิกแล้ว ตลอดจนการให้สิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในบางอุตสาหกรรมที่สั้นเกินไป เป็นต้น

"การประชุม กรอ.จะเป็นการเปิดพื้นที่ให้ภาคเอกชนได้แสดงออกและ เสนอข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการ พัฒนาร่วมกันกับภาครัฐในระยะยาว" นายกลินท์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จะเปิดโอกาสให้เอกชนได้พูด แต่ด้วยเวลาที่จำกัดจึงพูดได้น้อย ดังนั้นเลยเสนอว่าคววรจะมีการประชุม กรอ.ส่วนกลางภายในปีนี้ เพื่อที่รัฐและเอกชนจะได้มาทำความเข้าใจกันถึงบทบาทและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมร่วมกัน

นายกลินท์ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 มีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้ดี เนื่องจากการส่งออกที่หดตัวแรงในช่วงเดือน ก.ย. แต่เชื่อว่าจะเป็นเพียงระยะสั้น ประกอบกับคาดว่าภาครัฐจะมีการเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีน่าจะมีแรงหนุนที่ดีขึ้นได้ โดยยังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยขยายตัวในกรอบ 4.4-4.8% และอัตราเงินเฟ้อขยายตัวอยู่ในกรอบ 0.9-1.5%