ปตท. หนุนเกษตรกรไทย นำร่องใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในรถโดยสารสาธารณะ

จากสถานการณ์ปาล์มล้นตลาดในประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จึงร่วมสานพลังหน่วยงานของรัฐสังกัดกระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคม สนับสนุนนโยบายเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนด้วยการนำร่องใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในรถโดยสารสาธารณะ ขสมก. และ บขส. เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม และสนับสนุนนโยบายภาครัฐด้านพลังงานทดแทน คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้นจากเดิม 1.3 ล้านตันต่อปีเป็น 1.7 ล้านตันต่อปี

โดยโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ได้นำร่องทดลองใช้กับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ คือ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ได้ทำการทดลองในรถโดยสารธรรมดาสาย 145 อู่เมกาบางนา ถึง อู่หมอชิต 2 จำนวน 5 คัน ประมาณการใช้น้ำมันอยู่ที่ 400 ลิตรต่อวัน หรือ 12,000 ลิตรต่อเดือน และ บริษัท ขนส่งจำกัด (บขส.) จำนวน 3 คัน ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-กำแพงเพชร กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ และ กรุงเทพฯ-สระบุรี ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันรวมอยู่ที่ 19,500 ลิตรต่อเดือน โดยการทดสอบนี้จะมีรถคู่เทียบตามรุ่นและจำนวนเดียวกับรถที่ทดลองใช้ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ รวมถึงผลกระทบที่มีต่อเครื่องยนต์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และด้านอื่นๆ ด้วย

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการสนับสนุนจากระทรวงการคลัง และกองทุนน้ำมันอุดหนุนส่วนต่าง ทำให้มีส่วนลดราคาน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 เป็นลิตรละ 3 บาท เพื่อลดผลกระทบต่อราคาค่าโดยสาร ค่าบริการขนส่งสินค้า และค่าครองชีพของประชาชน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยสร้างเสถียรภาพทางราคาของปาล์มน้ำมัน ถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรปาล์มน้ำมัน และยังสามารถลดมลภาวะทางอากาศได้อีกด้วย สำหรับ ปตท. ในฐานะรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงพลังงาน ได้ดำเนินภารกิจเพื่อสร้างความมั่นคง และความมีเสถียรภาพด้านพลังงานของประเทศควบคู่กับการดูแลชุมชน สังคม ตลอดจนสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สถาบันนวัตกรรม ปตท. ได้ทำการศึกษาและพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งานจริงภาคสนามของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 นายสุภาพ ศิลปคัมภีรภาพ ผู้จัดการสถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้อธิบายว่า น้ำมัน B20 คือน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลสัดส่วนผสมประมาณร้อยละ 20 โดยการเติมไบโอดีเซลในสัดส่วนที่มากขึ้นนี้ ทำให้จำนวนซีเทนสูงขึ้นและคุณสมบัติด้านการหล่อลื่นดีขึ้นด้วย ทั้งยังลดปริมาณสารก่อมลพิษ เช่น กำมะถัน โพลีไซคลิก อะโรมาติก และไฮโดรคาร์บอน มีค่าลดลง นอกจากนี้ อัตราการสิ้นเปลืองของน้ำมัน B7 แบบทั่วไป และ B20 มีค่าที่ใกล้เคียงกัน โดยน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ในโครงการฯ นี้ นับเป็นน้ำมันทางเลือก เป็นพืชพลังงานหมุนเวียน นอกจากสามารถช่วยเกษตรกรระบายปาล์มน้ำมันแล้ว B20 ยังผลิตจากธรรมชาติ จึงช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ควันดำลดลง เพราะไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด จึงช่วยสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้

นอกจากนี้ นายชาญศิลป์ยังได้กล่าวเสริมเกี่ยวกับแผนงานขยาย B20 ในตอนท้ายว่า ต้องดำเนินตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน โดย ปตท. จะทำหน้าที่ในการทดสอบให้ ซึ่งการขยายการใช้ B20 ให้มากขึ้นนั้นต้องขึ้นอยู่กับผู้ค้ารายอื่นๆ รวมถึงกลไกของราคาและกลไกของการเติมด้วยเช่นกัน ซึ่งการพัฒนา B20 ในครั้งนี้ นับเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศและโลกดีขึ้น รวมถึงสังคมมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะให้ด้านการเกษตร

โครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 สำหรับรถโดยสาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ในครั้งนี้ นับเป็นอีกพันธกิจสำคัญที่ ปตท. ร่วมสร้างความมั่นคงให้กับพลังงานของไทยควบคู่ไปกับการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตได้อย่างแท้จริง