posttoday

"เอสซีจี"ปิดดีลเงินกู้แสนล้านเริ่มลุยปิโตรเวียดนาม

31 ตุลาคม 2561

เอสซีจีพร้อมลุยสร้างโครงการปิโตรเวียดนาม คาดสร้างรายได้ปีละเฉียดแสนล้าน

เอสซีจีพร้อมลุยสร้างโครงการปิโตรเวียดนาม คาดสร้างรายได้ปีละเฉียดแสนล้าน

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี เปิดเผยกับนิกเกอิ เอเชียน รีวิว ว่า เอสซีจีบรรลุข้อตกลงเงินกู้ได้ทั้งหมดแล้ว และกำลังจะเริ่มต้นการก่อสร้างโครงการลองซัน ปิโตรเลียมเคมิคอล โครงการปิโตรเคมีครบวงจรขนาดใหญ่ระดับโลกแห่งแรกของเวียดนาม ซึ่งดำเนินงานโดย บริษัท วีนา เอสซีจี เคมิ คอลส์ (วีเอสซีจี) บริษัทย่อยของเอสซีจี ในเร็วๆ นี้ หลังประสบปัญหาโครงการล่าช้าจากปัญหาเรื่องผู้ถือหุ้นในโครงการ

นายรุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า การก่อสร้างจะแล้วเสร็จทันกำหนด โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดใช้งานได้ภายในปี 2566 ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับเอสซีจีประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.98 หมื่นล้านบาท)/ปี

ทั้งนี้ ผู้บริหารเอสซีจี ระบุว่า บริษัทได้เงินกู้รวม 3,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.06 แสนล้านบาท) จากสถาบันการเงิน 6 แห่ง ได้แก่ ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ ปอเรชั่น ธนาคารมิซูโฮ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ซึ่งเงินกู้ทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วน 60% ของมูลค่าโครงการที่ 5,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.8 แสนล้านบาท) โดยส่วนที่เหลือ 2,200 ล้านดอลลาร์ (7.32 หมื่นล้านบาท) จะเป็นทุนของเอสซีจี

ทั้งนี้ เครือเอสซีจีได้เข้าไปถือหุ้นในโครงการนี้ 100% ผ่านทางบริษัท วีเอสซีจี 82% และบริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ 18% โดยวีเอสซีจีได้ซื้อหุ้น 29% จากกลุ่มบริษัท เวียดนาม ออยล์และก๊าซ ในปีนี้ เพิ่มเติมจากการซื้อหุ้น 25% มาจากคิวพีไอ เวียดนาม บริษัทย่อยของกาตาร์ ปิโตรเลียม ซึ่งฝั่งกาตาร์ขอถอนตัวออกจากโครงการนี้ในปี 2559 หลังราคาน้ำมันโลกปรับลดลง

เอสซีจีจะใช้โครงการลองซันในการผลิตโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง และโอเลฟินส์ ด้วยกำลังผลิต 1.6 ล้านตัน/ปี ช่วยให้เอสซีจีสามารถรองรับดีมานด์พลาสติกระดับพิเศษในหลายอุตสาหกรรมของเวียดนาม และโครงการนี้ยังเป็นฐานการผลิตโอเลฟินส์ เพื่อการส่งออกไป