posttoday

หัวเว่ยลั่นยึดที่2มือถือ

26 ตุลาคม 2561

หัวเว่ยเขย่าสมาร์ทโฟนพรีเมียม ส่งเมท 20 ซีรี่ส์ วาง 3 รุ่น ในไทยกระตุ้นไตรมาส 4 ชิงแชร์เพิ่ม เล็งเจาะกลุ่มเกมเมอร์

หัวเว่ยเขย่าสมาร์ทโฟนพรีเมียม ส่งเมท 20 ซีรี่ส์ วาง 3 รุ่น ในไทยกระตุ้นไตรมาส 4 ชิงแชร์เพิ่ม เล็งเจาะกลุ่มเกมเมอร์

นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของหัวเว่ย นับตั้งแต่การเปิดตัว หัวเว่ย พี20 ซีรี่ส์ ในช่วงต้นปีด้วยการชูเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และนวัตกรรม ส่งผลให้ยอดขายของหัวเว่ยในตลาด สมาร์ทโฟนทั่วโลกสามารถปรับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ของแบรนด์มือถือโลก ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดที่ 15-16%

ขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศ ไทย ซึ่งหัวเว่ยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 2 ห่างจากผู้นำที่มีส่วนแบ่งปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย ส่วนกลุ่ม สมาร์ทโฟนระดับบนในไทยมีผู้เล่นหลักเพียง 3 ราย ซึ่งหัวเว่ยตั้งเป้าที่จะขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในไทยให้ได้ภายในปีนี้ และตั้ง เป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้นำเบอร์ 1 ของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกและในไทยภายในปี 2563 จากความพร้อมด้านการแข่งขันต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีเอไอ และดีไซน์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดสมาร์ทโฟน

นายทศพร กล่าวว่า ล่าสุดหัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับบน ตระกูลเมท 20 ซีรี่ส์ 3 รุ่นในไทย โดยชูจุดเด่นหลายด้านเมื่อเทียบกับตลาดคู่แข่งโดยเฉพาะตัว ชิปเซตเอไอแบบคู่ครั้งแรกของโลก ชื่อว่า คิริน 980 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง แบตเตอรี่ความจุสูงมาพร้อมกับนวัตกรรมซูเปอร์ชาร์จ และระบบชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย รวมถึงเทคโนโลยีของกล้อง ฟีเจอร์การถ่ายภาพและระบบการทำงาน

ทั้งนี้ ได้เพิ่มงบทำกิจกรรมตลาด หัวเว่ย เมท 20 ซีรี่ส์ กว่า 4 เท่า จาก หัวเว่ย เมท 10 ซีรี่ส์ โดยจะเน้นกลยุทธ์การตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มุ่งกลุ่มเป้าหมายที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ รวมถึงผู้บริโภคทั่วไป เพื่อตอบโจทย์การใช้งานไลฟ์สไตล์ การสร้างคอนเทนต์ ผ่านภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ 3 มิติ โดยตั้งเป้ามียอดขายเมท 20 ซีรี่ส์ มากกว่า 3 เท่าของรุ่นที่ผ่านมา

นายทศพร กล่าวเพิ่มเติมว่า จาก การเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงในช่วงนี้ จะช่วยกระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟนในไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีให้กลับมาคึกคัก

จากปัจจุบันตลาดรวมลดลงเล็กน้อย โดยมั่นใจว่าทั้ง 3 รุ่นจะได้รับการตอบรับที่ดี และจะสนับสนุนให้ยอดขายสมาร์ทโฟนรวมของหัวเว่ยเติบโตขึ้นกว่า 50% ตามเป้าที่วางไว้

นอกจากนี้ ตั้งเป้าขยับโครงสร้างยอดขายสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยในตลาดระดับกลางเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายในตลาดระดับบน กลาง และล่างอยู่ที่ 30% 30% และ 40% ตามลำดับ ให้อยู่ที่ 30% 40% และ 30% ภายในปีนี้ จนถึงปี 2562 ขณะเดียวกัน หัวเว่ยจะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ ประสิทธิภาพของเครื่อง การประหยัดพลังงาน เพื่อ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเกมเมอร์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น